เปิดใจคนไทยยากูซ่าอันดับสอง

กันยายน 14, 2016 16:22 โดย opwnews
0
1967

ยากูซ่าอันดับสอง Screenshot_2016-09-14-22-04-12
ผมไปเป็นโรบินฮูดหากินอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นหกปีครึ่ง
สี่ห้าเดือนแรกทำงานก่อสร้างต่อมาก็ค้าขาย
พอมีทุนมาเปิดร้านอาหารและโต๊ะสนุ๊กเกอร์
ผมอยู่แบบหนีวีซ่าจึงต้องจ้างคนญี่ปุ่นเป็นผู้จัดการประจำตัวคนนึง
เอาไว้ใช้ชื่อและติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆของญี่ปุ่น
ร้านเปิดมาเพียงสองเดือนกว่าๆก็มีเหตุเกิดขึ้นอย่างจนใจ
ยากูซ่านักเลงหนึ่งเดียวของญี่ปุ่น
มาเก็บค่าใช้จ่ายรายเดือนซึ่งเป็นเรื่องปรกติของญี่ปุ่น
คนทำร้านกลางคืนขายเหล้าหรือขายบริการต่างๆที่เรียกว่าสีเทา
ต้องจ่ายให้ยากูซ่าทุกที่ไม่มีละเว้น
ร้านแช้มป์เปี้ยนนี้ก็เหมือนกันยอมจ่ายมาตั้งแต่เดือนแรก
แต่มันมีปัญหาว่าพื้นที่ตั้งของร้านมันคาบเกี่ยวถึงสามเขต
ซึ่งหมายความว่าเราต้องจ่ายทั้งสามที่ อารากาว่า มิโต้ กั๊กกูเวง
ยากูซ่าญี่ปุ่นจะมีระเบียบแบบแผนเป็นระบบดีมาก
แบ่งกันเก็บเป็นตำบลส่งอำเภอจังหวัดตามลำดับ
ตรงนี้ผมก็ไม่มีปัญหายอมจ่ายตามระบบ
แต่ผมจะจำหน้าคนมาเก็บเงินไม่ได้
เพราะมันมีตั้งสามเขตแล้วเปลี่ยนคนบ่อย
อยู่มาวันนึงยากูซ่าขนานแท้ตัวล่ำปึ้กหัวหยิกหยอยเพิ่งมาครั้งแรก
เปิดประตูเดินส่ายผึ่งผายเข้ามาผมกำลังเล่นสนุ๊กเกอร์อยู่
รีบเดินมาหยิบเงินให้มันเพราะรู้อยู่ว่าเป็นพวกยากูซ่ามาเก็บเงิน
พอส่งเงินให้ผมก็ถามว่ามาจากไหนเพื่อจะลงบัญชี
มันโมโหเดือดดาลปี๊ดขึ้นมา…ถามว่าผมไม่รู้จักมาเฟียรึไง
ด่าเสียงดังโวยวายตามสไตร์ยากูซ่าที่ชอบเอาเสียงข่มไว้ก่อน
ผมพยายามอธิบายแต่มันไม่ฟังมันตบบ่าผมให้ออกไปนอกร้าน
ผมถือไม้คิวติดมือออกไปด้วยเพราะกำลังเล่นสนุ๊กเกอร์อยู่
มันยกมือผลักอกผมแล้วตะคอกถาม…..มึงถือไม้มาจะสู้กับกูรึไง……
ผมชักเริ่มมีอารมย์เดือดชี้หน้าเตือนมันอย่าใช้กำลังนะ
มันไม่ฟังยกมือซ้ายขึ้นตบเข้ามาแถวบ้องหู
ผมระวังตัวเตรียมพร้อมอยู่แล้ว
ยกแขนขวาขึ้นบังแล้วปล่อยหมัดซ้ายตรงเข้าหน้ามันอย่างจัง
ประตูกระจกบานเลื่อนติดฟิลม์มืดของร้านเปิดแยกออกจากกันผลั่ว
คนไทยที่อยู่ในร้านสามสิบกว่าคนพุ่งตัวออกมาเตรียมพร้อม
ผมร้อง…เอ้า…สะบัดหน้าไปทางไอ้ยากูซ่าจอมกร่าง
เสียงดังเหมือนสับหมูอย่างไงอย่างงั้น ตับๆๆๆๆๆๆๆ…
ไอ้นั่นร้อง โกเมนนาไซๆๆ (ขอโทษ)ซ้ำไปซ้ำมา
ขาข้างนึงลอดตกไปที่ลูกกรงระเบียงตึกลุกขึ้นไม่ได้
นั่งโงนเงนไปมาเหมือนตุ๊กตาล้มลุก
ถือว่าเป็นฟรีคิกของเหล่าโรบินฮูดไทยโดยแท้
ใครขึ้นมาก้มลงดูพอเห็นเป็นยากูซ่า
ก็หวดปั่นไซด์เต็มแข้งเหมือนเตะลูกโทษ
ความคับแค้นใจที่ถูกยากูซ่ารังแกข่มเหงเอาเปรียบตลอดมา
ถูกระบายทิ้งไว้ตรงนี้ทั้งหมดโดยมีผมเป็นเจ้าภาพ
ผมร้องบอกให้จับมันโยนลงตึกไปเลยบิลลี่เพื่อนสนิทที่เป็นคนไทย
เข้ามากอดแล้วเขย่าเรียกสติผมให้กลับมา
….อย่านะพี่ภูมิ ถ้ามันตายเราต้องเดือดร้อนกันนะ
ร้านก็เพิ่งเปิดด้วย……
พอตั้งสติได้ผมสั่งปิดร้าน แล้วให้แยกย้ายกันไปก่อน
ผมขึ้นรถมุ่งหน้าไปบ้านเพื่อนญี่ปุ่นอีกคนที่ต่างจังหวัด
อ้วกไปเกือบตลอดทางด้วยความเครียด
ถึงบ้านเพื่อนผมถอดรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อที่ใส่ลงแช่ในกระมัง
น้ำเลือดละลายออกมาแดงเหมือนน้ำเย็นตาโฟ
ผ่านมาสองวันเพื่อนก็ส่งข่าวว่ามีคนไปเคลียร์ให้แล้ว
เป็นยากูซ่าเก่าปลดเกษียนชื่อทากาโน่
เขานัดให้ไปคุยกันที่โรงพยาบาลที่ไอ้จอมซ่ารักษาตัวอยู่
กุ๊กที่ร้านมาบอกภายหลังว่า
ขับรถออกไปดูมันมานึกว่ามันจะตายตรงนั้น
จะได้เอาไปทิ้งที่อื่น ผมนึกในใจปรกติเห็นกุ๊กมันหงิมๆ
ที่จริงมันก็โหดเหมือนกันนะ พอไปดูแล้วไม่เจอ
มีคนเห็นว่ามันคลานขึ้นรถไปโรงพยาบาลเอง
ผมจำเป็นต้องใจดีสู้เสือเพราะห่วงร้านไปพบกับโอยาบุ้ง
หัวหน้าใหญ่ระดับจังหวัดของยากูซ่าที่โรงพยาบาลกั๊กกูเวง
อยู่ไม่ห่างจากร้านมากนักพาพวกไปสี่ห้าคน
แต่ผมเข้าไปคนเดียวเพื่อให้โอยาบุ้งเข้าใจเจตนา
ที่มาว่าไม่ได้คิดต่อสู้
พอเข้าไปในห้องเห็นไอ้จอมซ่านอนนิ่งอยู่บนเตียง
หน้าพันผ้าสก๊อตไว้เหลือแต่ลูกกะตาแขนก็ถูกผูกโยงไว้ทั้งสองข้าง
ขวดเลือดขวดน้ำเกลือแขวนโตงเตงเกะกะ
มีพวกยากูซ่าผมหยิกหัวฟูรอยสักที่แขนลายพร้อย
ยืนรอบเตียงเกือบๆสิบคน
ทากาโน่คนเคลียร์ส่งยิ้มให้ผม คล้ายจะปลอบใจว่าไม่ต้องกลัว
แล้วเริ่มถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นผมเล่าไปตามความจริง
โอยาบุ้งถามสวนขึ้นมาประโยคเดียว…จ่ายเงินหรือยัง….
ผมตอบว่าจ่ายไปแล้วเขาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ
ลูกน้องโอยาบุ้งเดินไปล้วงดูในกระเป๋าเสื้อ
ที่มีรอยเลือดเกราะกรังกองอยู่ที่โต๊ะข้างๆ
หยิบแบ๊งก์หมื่นสองใบออกมาวาง
โอยาบุ้งพูดตวาดเสียงดัง…..ได้เงินแล้วไปหาเรื่องเขาทำไม…….
ยังพูดว่ากล่าวอีกหลายอย่างแต่ผมฟังไม่ค่อยเข้าใจ
เสร็จแล้วหันมาพูดกับผมเบาๆ
ให้ผมออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด
แล้วจบกันไปโอเคมั๊ย
จะได้ไปเปิดร้านทำมาหากินกันต่อ ผมตกลง
แต่นึกแปลกใจว่ามันง่ายกว่าที่คิด
ก่อนกลับโอยาบุ้งถามขึ้นมาอีก……ต่อยกันตัวต่อตัวใช่ไหม……
ผมพยักหน้าพูดเบาๆ….วันบายวัน….
เหลือไปเห็นไอ้นั่นพยายามขยับตัวแต่ไม่มีใครสนใจ
โอยาบุ้งยิ้ม…..แล้วกล่าวชมออกมา….
….คิ๊กบ๊อกซิ่งของไทยนี่อันตรายจริงๆ…..
ขากลับผมเดินยิ้มมาตลอดทางนึกภูมิใจในตัวเอง
ที่มีโอกาศได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศกับเขาด้วยเหมือนกัน
ไอ้จอมซ่ารักษาตัวอยู่เกือบๆสามเดือน
มีลูกน้องเอาบิลค่ารักษามาเก็บเงินทุกอาทิตย์
สรุปเบ็ตเสร็จหมดไปหนึ่งล้านเจ็ดแสนไทยโดยประมาณ
หลังออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วัน
ทากาโน่ยากูซ่ารุ่นเก่าที่เครียร์เรื่องให้
พามันมาที่ร้านแนะนำตัวให้รู้จักกัน
คุยกันแล้วถึงรู้ว่ามันเป็นยากูซ่าอันดับสองของเขตอามี่
ปรกติจะให้ลูกน้องมา
แต่วันนั้นบังเอิญผ่านมาเลยแวะมาเก็บเอง
ตกลงว่าต่อจากนี้ไปเป็นเพื่อนกัน…….ระดับเดียวกัน…..
ป๊าทากาโน่ย้ำหลายครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พวกเด็กเก็บเงินของยากูซ่าเวลามาเก็บเงินจะยืนหน้าประตู
ชะโงกหน้ามาร้องเรียกสุภาพมาก…ขอโทษครับ มาเก็บเงินครับ….
เพราะตำแหน่งทางยากูซ่าของผม
ก็ประมาณอันดับสองของเขตอามี่เชียวนะครับ……
ภาคภูมิ ราชกิจ
ขอบคุณเฟสบุ๊คnoithai




--!>