ปวีณารุดเยี่ยมเด็กพิเศษป.6 ถูกผอ.ร.ร.ทำร้ายเจ็บสาหัส

กันยายน 18, 2016 10:50 โดย opwnews
0
1205

ปวีณารุดเยี่ยมเด็กพิเศษป.6 ถูกผอ.ร.ร.ทำร้ายเจ็บสาหัส
1474196223725

ปวีณา รุดเยี่ยมเด็กพิเศษ ถูกผอ.โรงเรียนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส หลังยายส่งจดหมายร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ยากจนต้องกู้ยืมเงินเป็นหนี้เป็นสิน พาหลานเดินทางไปรักษาตัว หูทั้ง 2 ข้างไม่ได้ยินเสียง ตาขวาพร่ามัวเริ่มมองไม่เห็น ขณะที่ผอ.โรงเรียนที่ก่อเหตุไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือ ด้านตำรวจศรีเมืองใหม่ทำงานฉับไว แจ้งข้อหาผอ.ทำร้ายร่างกายสาหัสส่งฟ้องแล้ว ทั้งนี้ได้ฝากถึงกระทรวงศึกษาฯช่วยให้ความเป็นธรรม แนะควรมีงบกลางช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่่ 18 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมพ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีเมืองใหม่ และพัฒนาสังคมจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 10 บ้านหนองห้าง ต.นาคำ อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยม ด.ช.เอ (นามสมมติ) เด็กพิเศษ นักเรียนชั้นป.6 ที่ถูกนายวินัย วงศาสุข ผอ.โรงเรียนบ้านหนองห้าง ต.นาคำ อ.ศรีเมืองใหม่ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุจากไม่พอใจที่ด.ช.เอไม่ยอมเข้าแถวเคารพธงชาติ หลังได้รับจดหมายร้องเรียนจากนางน้อย (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ผู้เป็นยาย ที่ส่งมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ

โดยนางน้อย ได้เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบถามเพื่อนๆ ของหลานที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่ยืนเข้าแถวอยู่ด้านหน้าเสาธง ทราบว่า สาเหตุที่ถูกผอ.โรงเรียนทำร้ายร่างกายเพราะว่าหลานไม่ยอมเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยบ่นกับเพื่อนๆ ว่าเหนื่อย จึงเดินมานั่งที่หน้าเสาธงแทน เมื่อผอ.เดินมาเห็นจึงไม่พอใจ ตบเข้าที่บ้องหูซ้ายขวาอย่างแรง เอาศอกสับหัว และตบปาก ตบจมูก จนเลือดกำเดาไหล เพื่อนๆ ที่เห็นว่า ผอ.ทำร้ายหลาน จึงได้วิ่งไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านได้ทราบ หลังจากเลิกเรียนหลานเดินทางกลับมาถึงบ้าน ร้องไห้มาเล่าให้ฟังว่า ปวดหัวและปวดบริเวณในรูหูจนทนไม่ไหว จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอก่อนถูกส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี

“ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันตนต้องพาหลานเดินทางเข้า –ออกโรงพยาบาล เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว และอาการล่าสุดหูทั้ง 2 ข้างของหลานไม่ได้ยินเสียง ตาด้านขวามีอาการมัวเริ่มมองไม่เห็น ทุกวันนี้ยังมีอาการผวา บางคืนนอนละเมอว่าจะมีคนมาทำร้าย ซึ่งที่ผ่านมาตนต้องพาหลานชายเดินทางไปตรวจรักษาอาการเกี่ยวกับหูที่ไม่ได้ยินเสียงกับแพทย์ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เมืองอุบลราชธานี และรักษาอาการเกี่ยวกับดวงตาที่เริ่มพร่ามัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น ครอบครัวก็มีอาชีพทำนา รายได้น้อย ฐานะยากจน อีกทั้งพ่อแม่ของเด็กชายเอ ที่แยกทางกันก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มาก ที่ผ่านมาตนต้องไปหยิบยืมเงินจากพระที่วัดและเพื่อนบ้านเพื่อใช้ในการเดินทาง หมดไปแล้วกว่า 50,000 บาท โดยที่ ผอ.โรงเรียน คนที่ทำร้ายร่างกาย ไม่เคยมายื่นมือช่วยเหลือแต่อย่างใด และยังคงทำงานตามปกติ”

หลังรับเรื่องร้องทุกข์นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ รีบติดต่อกลับนางบับพาวะดี ยายของด.ช.เอ ทันที เมื่อทราบรายละเอียดจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามความคืบหน้าทางด้านคดี ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยสอบปากคำผู้เสียหายและพยานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม และรับผลการตรวจร่างกายด.ช.เอ ก่อนจะแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกาย และต่อมาได้แจ้งข้อหาเพิ่ม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และสรุปสำนวนสั่งฟ้องไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนายวินัย วงศาสุข ผอ.โรงเรียนบ้านหนองห้าง ที่หลังก่อเหตุยังคงทำงานตามปกตินั้น ได้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยจะแจ้งผลกลับมาในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.นี้ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานพัฒนาสังคมจังหวัดอุบลราชธานีเข้าช่วยเหลือ ก่อนนัดร่วมกันเข้าเยี่ยมด.ช.เอในวันนี้

ภายหลังเยี่ยมด.ช.เอ และครอบครัวแล้ว นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า เบื้องต้นทางมูลนิธิปวีณาฯได้ช่วยเหลือเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายพาด.ช.เอ เดินทางไปโรงพยาบาล และได้ประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้ามาดูแลช่วยเหลือ ซึ่งรู้สึกเป็นห่วงอาการของด.ช.เอ มาก ควรจะได้รักษาอย่างต่อเนื่อง ขอวอนผู้ใจบุญร่วมกันทำบุญบริจาคช่วยครอบครัวด.ช.เอ ซึ่งมีฐานะยากจน และจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว ทั้งนี้ ฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการว่าควรจะมีงบกลาง หากเกิดปัญหาเช่นนี้จะได้สามารถช่วยเหลือได้ทันที และขอให้ความเป็นธรรมกับด.ช.เอ และครอบครัวด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว




--!>