………คนไม่มีที่ยืน………

ตุลาคม 13, 2016 03:10 โดย opwnews
0
1312

………คนไม่มีที่ยืน……… Screenshot_2016-10-13-10-17-37
เมื่อประมาณปี 2529
ผมไปทำมาหากินอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นหลายปี
เจริญรุ่งเรืองมีกิจการหลายอย่าง
ร้านอาหารไทยโต๊ะสนุ๊กเกอร์คาราโอเกะ
มีรถตู้ส่งวีดีโอให้เช่าอีกสองคัน
มีเงินหมุนผ่านมือวันละนับแสนๆบาท
แต่ผมเป็นคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน
และยังไม่มีภาระไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
จึงใช้เงินทองอย่างไร้ค่าแจกจ่ายไปทั่ว
ได้มาก็หมดไปกับการเที่ยวเตร่และเล่นการพนัน
พอมาถึงปี 2534 ญี่ปุ่นร่างกฏหมายใหม่
ปราบปรามคนต่างชาติที่หนีวีซ่าเข้ามาทำงาน
จึงสิ้นสุดหมดยุคทองของโรบินฮูด
ถึงคราวจำเป็นต้องกลับเมืองไทย
มีเงินติดตัวมาเพียงล้านกว่าๆ
ได้ดาวท์บ้านเล็กๆไว้อีกหนึ่งหลังตั้งแต่อยู่ที่ญี่ปุ่น
พอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยยิ่งเหมือนคนโง่
เอาเงินเพียงเล็กน้อยที่มีมาไปดาวส์รถเก๋ง
ขับเที่ยวทำโก้อยู่แบบไร้สาระหาความสุขไปวันๆ
ต่อมามีลูกชายผมก็ยังไม่มีความคิดอะไร
เผลอปล่อยเวลารื่นเริงจนเงินหมดเริ่มมีหนี้สิน
รถค้างค่างวดไว้หลายงวดบ้านก็ถูกธนาคารยึด
ปล่อยตัวหมดสภาพทรุดโทรม
คนเคยรักไคร่นับถือก็เริ่มตีจาก
พอลูกชายอายุใกล้สามขวบถึงเกณฑ์ต้องเข้าโรงเรียน
ต้องใช้เงินก็ยังไม่มีเงินเลยสักน้อย
ผมพาครอบครัวมาสู่จุดวิกฤติต่ำสุด
รู้ตัวเมื่อสูญเสียทุกอย่างไปหมดสิ้น
แม้แต่ความศรัทธานับถือจากคนรอบข้าง
ชื่อเสียงความสำเร็จจากประเทศญี่ปุ่นค่อยๆถูกลืม
ผมเริ่มได้สติทบทวนสภาพแวดล้อมที่ผ่านมา
มันเป็นเพราะเรา…..เผลอตัวลืมตน
ถึงเวลานี้จะมองหาที่พึ่งทางไหนก็มืดมน
การสร้างตัวที่ต้องเริ่มจากศูนย์
ในประเทศไทยมันคงไม่ง่ายสำหรับเรา
กำลังรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง….หมดแรงต่อสู้
ก็มีพวกมาชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อน
ที่จังหวัดตากอำเภอแม่สอด
ผมกำลังว่างๆก็เลยนั่งรถไปกับเขา
นั่งหัวเหวี่ยงรับโค้งตามเชิงเขาจนมึน
ก็ถึงอำเภอแม่สอดขับเลาะริมแม่น้ำเมย
ไปอีกหน่อยก็จะถึงตัวอำเภอ
แม่น้ำเมยเป็นแม่น้ำเล็กๆน้ำไม่ลึกมากนัก
เป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า
ช่วงขับเลียบไปตามริมแม่น้ำเห็นทหารไทย
นับร้อยนายติดอาวุธครบมือเตรียมพร้อม
กระจายกำลังเป็นทางยาว
ตามลำแม่น้ำเมยไปไกล
จึงชวนกันจอดรถแวะดู
ผสมกับพวกไทยมุงที่มีมากกว่าทหารอีก
เห็นอีกฟากฝั่งซึ่งเป็นเขตแดนของพม่า
มีชาวบ้านลูกเด็กเล็กแดงคล้ายผู้อพยพนับพันคน
หอบข้าวของเครื่องใช้ก่อไฟหุงหาอาหารควันขโมง
ปักหลักอยู่ตามริมตลิ่งทางฝั่งของพม่า
อยู่ๆ….ก็มีเสียงปืนกลดังระรัวมาจากฝั่งโน้น
ครู่เดียวทหารพม่ากลุ่มใหญ่เจ้าของเสียงปืน
ก็โผล่ออกมาจากชายป่า
กระโดดถีบคนเตะหม้อที่ชาวบ้านกำลังหุงต้ม
กระเด็นตกไปในแม่น้ำแล้วขับตีชาวบ้านที่อพยพ
วิ่งหนีกันชุลมุนวุ่นวาย……
….สุดท้ายต้องหนีลงน้ำทั้งหมด
พอเดินมาถึงกลางแม่น้ำที่ลึกเพียงแค่หน้าอก
ทหารไทยก็ยิงปืนรัวขึ้นฟ้ายันไว้ไม่ให้ข้ามมาที่ฝั่งไทย
ชาวบ้านทั้งหมดจึงต้องยืนอยู่กลางแม่น้ำ
บางคนมีลูกเล็กก็เอาขึ้นคอไว้
ข้าวของที่พอหยิบฉวยมาได้เทินไว้บนหัว
ผมถามสมาชิกไทยมุงที่อยู่ข้างๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เขาบอกพวกนี้เป็นพวกกระเหรี่ยงคริสต์
อาศัยอยู่ตามชายแดนฝั่งโน้น
วันนี้มีงานเปิดสะพานข้ามแม่น้ำไทยพม่า
จะมีนายทหารระดับสูงของพม่า
มาทำพิธีเปิดร่วมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของไทย
ทหารพม่าเคยรบกับพวกนี้บ่อยจึงไม่ค่อยไว้ใจ
ต้องขับไล่ให้ออกนอกพื้นที่ไปก่อน
เพื่อความปลอดภัยของนายทหารพม่า
ผมยืนดูชาวกระเหรี่ยงเป็นพันคน
ยืนเรียงรายแช่อยู่ในน้ำ
มองจนภาพติดตา…ขากลับคิดมาตลอดทาง
…..คนไม่มีแม้แต่แผ่นดินจะยืน…….
นึกถึงตัวเองขึ้นมา…..จึงได้คำตอบ…..
ตัวเรามีที่ไปตั้งมากมายมีลู่ทางทำมาหากิน
มีโอกาศมีอิสรภาพมีครอบครัวที่ดีเป็นกำลังใจ
ทำไมไม่มองสิ่งที่เรามี..เริ่มต้นจากสิ่งที่ทำได้
ที่มืดแปดด้านเพราะเราไม่มองตัวเอง
ไม่ประมาณตนเพื่อเริ่มต้น….
……..เป็นเพราะหัวใจเรามันกระจอกนี่เอง…….

ภาคภูมิ ราชกิจ




--!>