ปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานเปิด โครงการ“ ปั่นไปไม่ทิ้งกัน (NO ONE Left Behind) ปี 2562″ พร้อมด้วยศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ

กุมภาพันธ์ 21, 2019 07:00 โดย opwnews
0
614

IMG_5930  IMG_5946 IMG_5966

IMG_5975

ปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานเปิด โครงการ“ ปั่นไปไม่ทิ้งกัน (NO ONE Left Behind) ปี 2562″ พร้อมด้วยศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เป็นผู้นำขบวนพร้อมคณะปั่นจักรยาน หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อเวลา 08.00 น. มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการจัดกิจกรรม โครงการคนพิการเข้าถึงสิทธิได้จริง “ ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ (No One Left Behind)” และคณะดำเนินงานที่ร่วมกันจัดโครงการในครั้งนี้ ซึ่งมูลนิธิฯได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นประธานเปิดโครงการ“ ปั่นไปไม่ทิ้งกัน” No One Left Behind และทรงร่วมปันจักรยานจากกรุงเทพฯไปจังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 และทางมูลนิธิฯได้ดำเนินโครงการ ในระหว่างวันที่ 9 – 22 กุมภาพันธ์ 2562 จากกรุงเทพฯถึงศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผ่าน 15 จังหวัดคือกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครราชสีมา ลพบุรี สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี และนครปฐมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนเพิ่มจำนวน 118 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ให้แล้วเสร็จ และเริ่มก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รณรงค์สังคมเพื่อสร้างความตระหนัก และความรู้เกี่ยวกับคนพิการ ทั้งด้านศักยภาพในการทำงานและการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลทั่วไปของคนพิการ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเพื่อเป็นต้นแบบในด้านการฝึกอาชีพคนพิการในภูมิภาคอาเซียน ในลักษณะการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้นำสู่ท้องถิ่นและจากรุ่นสู่รุ่นของคนพิการ เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างความเป็นผู้นำให้กับคนพิการในสังคม

IMG_5935 IMG_5973 IMG_6001 IMG_5998
เนื่องจากปัจจุบันมีคนพิการที่อยู่ในวัยทำงาน 8 แสนคน ซึ่งมีคนทำงานอยู่เพียง 2 แสนคนและส่วนใหญ่เป็นอาชีพอิสระ มีกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่มีเงินอยู่เป็นหมื่นล้านบาท แต่ขาดศูนย์ฝึกอาชีพที่จะนำเงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการไปฝึกอาชีพอิสระให้แก่คนพิการที่รอคอยให้เปลี่ยนภาระให้เป็นพลังอยู่เป็นจำนวนมาก ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จะไม่สามารถพาคนพิการให้ก้าวพ้นจากการเป็นคนยากจนหรือคนที่เป็นภาระให้เป็นคนที่พึ่งตนเองเป็นคนที่มีพลังไม่ได้เลย ถ้าหากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เงินทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนที่บริจาคในการสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนอำนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้การจัดตั้งสำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
สหรัฐ แก้วตา ปทุมธานีรายงาน




--!>