ตำรวจภาค3จับมือปปส.ภา3แถลงผลปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อีสานใต้

วันนี้ (8 พ.ค.63) เวลา 09.00น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 (ป.ป.ส.ภาค 3) ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา  พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และ นายณรงค์ วรหาญ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ร่วมกันแถลงผลการระดมกำลังและบูรณาการร่วมเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมเพื่อทำลายเครือข่ายและยึดทรัพย์นักค้ายาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ช่วงระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2563 โดยมีเป้าหมายในการดำเนินการ 194 เป้าหมายโดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 156 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 8 คนและของกลางยาบ้า 235,096 เม็ด ไอซ์ 870.88 กรัม กัญชา 182.10 กรัม รวมมูลค่า 27,521,900 บาท ,ตรวจยึดทรัพย์สิน เป็นรถยนต์ 14 คัน ,รถจักรยานยนต์ 10 คัน ,ทองคำและเงินสด รวมมูลค่า 10,497,800 บาท ซึ่งผลปฏิบัติการร่วมในครั้งนี้ เป็นการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวลาว ที่ลักลอบเข้ามาค้ายาเสพติดในไทย

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย ให้เร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วนเน้นจับกุมกวาดล้างเครือข่ายและยึดทรัพย์สินของกลาง เพื่อไม่ให้เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด นำไปต่อยอดขยายผลสร้างเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้ ให้ปราบปรามแหล่งผลิตและขยายผลลงไปถึงแหล่งพักยา ในแต่ละภูมิภาค ทั้งบริเวณชายแดนและพื้นที่ภายใน เพื่อทำลายข่ายการค้ายาเสพติดให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปราบปรามจับกุมดำเนินคดีผู้กระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

ด้านนายณรงค์ วรหาญ ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 3 กล่าวว่าการปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายการค้ายาเสพติดในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด และได้กำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งในด้านการปราบปรามได้เน้นย้ำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย มุ่งดำเนินการต่อเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยใช้แนวทางการสืบสวนขยายผลไปดำเนินการกับผู้สั่งการในระดับที่สูงขึ้นไป และใช้มาตรการยึดทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้ต่อเนื่องจริงจัง  การบูรณาการยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ถือเป็นการปิดช่องว่าง ตัดวงจรการค้าของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ โดยหากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา / รายงาน