กลุ่มสมอทอง ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท สร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบแห่งใหม่ที่สระบุรี
ปทุมธานี
บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบแห่งใหม่ที่อำเภอหนองแค ต.หนองโรง จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีกำลังผลิต 30 ตันปาล์มดิบต่อชั่วโมง
นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ เปิดเผยว่าล่าสุดบริษัทฯได้ทุ่มงบครั้งใหญ่กว่า 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งใหม่ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ที่ 33/3 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีโดยโรงงานแห่งใหม่นี้ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของบริษัทฯ ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะสามารถรองรับผลิตปาล์มจากเกษตรกรในเขต 3 จังหวัด คือ สระบุรี นครนายก และ ปทุมธานีและโซนพื้นที่ภาคกลางที่หันมาสนใจปลูกปาล์มจำนวนมาก ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแล้ว เกษตรกรจะถูกหักค่าขนส่งผลปาล์มที่ต้องขนไปยังโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบทางภาคตะวันออกถึงกิโลกรัมละ 50 สตางค์จากราคาปาล์มในตลาด ดังนั้นจึงทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปด้วย แต่ทว่าหากมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าวารองรับผลผลิตในเขตพื้นที่นี้ก็จะส่งผลดีกับเกษตรกรไปด้วย ที่ไม่ต้องแบกรับค่าขนส่งได้อีกต่อไป ดังนั้นกลุ่มสมอทองจึงเข้ามาสร้างโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มสร้างขึ้นนี้มานี้สามารถรองรับกำลังผลผลิตจากปาล์มของเกษตรกรได้ถึงแสนกว่า12,0000ไร่
ด้านนายมนัส พุทธรัตน์อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 1 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าจังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี นั้นยังไม่มีโรงงานปาล์มน้ำมันดังนั้นเราจึงตั้งกลุ่มเพื่อรวบร่วมปาล์มมาส่งยังโรงงานปาล์มที่สระบุรีโดยประสานกับโรงงานปาล์มกลุ่มสมอทองพร้อมที่จะมาเปิดโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันดิบเพื่อยกระดับราคาปาล์มน้ำมันให้สูงขึ้นซึ่งเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งแต่ประชาชนที่ไม่ทำสวนที่ไม่เข้าใจว่าการตั้งโรงงานทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษตนเองและทางโรงงานต้องทำประชาคมกับชาวบ้านโดยเกษตรกรให้ความรู้และข้อมูลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจนเข้าใจจึงสามารถสร้างโรงงานนั้นได้สำเร็จดังนั้นตนเองอยากแนะนำเกษตรกรที่ปลูกพืชต่าง ๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จไม่ได้ผลหรือประสบกับการขาดทุนเพราะต้นทุนการผลิตสูงควรหันมาปลูกปาล์มเพราะลงทุนในเบื้องต้นปีแรกค่อนมากแต่ปีต่อไปก็จะลงทุนน้อยลงและอายุของต้นปาล์มนั้นอยู่ได้ถึงสามสิบปีการเก็บเกี่ยวนั้นก็ได้ 2 ครั้งต่อเดือนถือเป็นอาชีพของเกษตรกรที่มั่นคงมีรายได้ตลอดทั้งปีและถ้าโรงานนั้นเดินเครื่องสมบูรณ์เต็มที่ทางเกษตรกรก็สามารถต่อรองได้ในเรื่องของราคาเพราะเราอยู่ใกล้โรงงานโดยเกษตรกรจะร่วมกลุ่มกันผลิตปาล์มที่มีคุณภาพส่งโรงงานได้อีกต่อไป
สมยศ แสงมณี ภาพ / ข่าว