อบต.ไทยสามัคคีจับมืออำเภอวังน้ำเขียวขอเชิญเที่ยวงานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก ครั้งที่ 17 ประจำปี 2562

วันนี้ (6 ธ.ค.61) เวลา 17.00 น. ที่หน้าห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก ครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายดอกเบญจมาศและส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลไทยสามัคคีให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป  โดยมี นายชอบ สร้อยจิตต์ รักษาการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมานายพรเทพ วัชกีกุล นายอำเภอวังน้ำเขียว ,พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ,นายสมบูรณ์ สิงกิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี ,นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ที่ปรึกษาประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ,นายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา และนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัทเดอะมอลล์ราชสีมาจำกัด ร่วมแถลงข่าว

นายสมบูรณ์ สิงกิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี กล่าวว่า งานเบญจมาศบานในม่านหมอกเริ่มจัดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยกลุ่มผู้ปลูกเบญจมาศในยุคแรกๆของตำบลไทยสามัคคี ได้แก่ คุณสมประสงค์ ประดับมุข ประธานกลุ่ม คุณวิภา จันทร์คุ้ม คุณชูศักดิ์ นิยมนา คุณสิงโต ธงกลาง จัด ณ บริเวณซุ้มไม้งามปากทางเข้าตำบลไทยสามัคคี โดยใช้งบประมาณในการจัดงาน 30,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายดอกเบญจมาศและส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลไทยสามัคคีให้คนทั่วไปได้รู้จัก ซึ่งการจัดงานครั้งแรกประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อปี 2549 นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานเบญจมาศบานในม่านหมอก ครั้งที่ 4 ต่อมาก็ได้จัดงานเบญจมาศบานในม่านหมอกขึ้นเป็นงานเทศกาลการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ทุกๆปีโดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ทำให้การจัดงานยกระดับขึ้นเรื่อยๆ และย้ายสถานที่จัดงานมาที่บริเวณข้างอ่างเก็บน้ำห้วยกระบอก และบริเวณข้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคีจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการปลูกเบญจมาศในงาน ใช้พื้นที่ทั้งหมด 10 ไร่  จำนวนแปลงที่ปลูก 250 แปลง ใช้สายพันธุ์ที่ปลูก ประมาณ 25 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ดอกเดี่ยว (เบญ) ขนาดใหญ่ ได้แก่ ไรวารี (สีขาว สีเหลือง สีชมพู)พันธุ์ดอกช่อ (มัม) ได้แก่ รีเก็ตต้า (สีเหลือง), รีแกน (สีขาว เหลือง ชมพู ม่วง ส้ม),ฟาโรห์ (ขาว),ดิสคอฟเวอรี่ (สีเขียว),จากัวร์ (สีแดง), ซีอาร์เรด (สีแดง),เชลแมน (สีเหลือง), วิรินก้า (สีส้ม),ยูริ (สีม่วง,ชมพูหวาน),มิลินด้า (สีขาว เหลือง), สไปเดอร์ (สีขาว)  โดยราคาขายทั่วไป ณ ปัจจุบัน ดอกช่อกิโลกรัมละ 60-80 บาท ดอกเดี่ยวดอกละ 7-8 บาท

ปัจจุบันมีจำนวนผู้ปลูกดอกเบญจมาศในตำบลไทยสามัคคี ประมาณ 29 ครอบครัว  พื้นที่ในการปลูกรวมประมาณ 120 ไร่ ในจำนวน 1 ไร่ สามารถปลูกได้จำนวน  40 โครง  ขึ้นอยู่กับระยะห่างของร่องจะมีความกว้าง 1 เมตร ยาว 19 เมตรจำนวน 2 ร่อง ต่อ 1 โครง ภายใน 1 ปี สามารถปลูกได้ 2 ครั้ง ได้จำนวนผลผลิต 120 กิโลกรัม/ครั้ง/โครง ราคาขายทั่วไป ณ ปัจจุบัน ดอกช่อ กิโลกรัมละ 60-80 บาท , ดอกเดี่ยว ดอกละ7-8 บาท ซึ่งรายได้ของผู้ปลูกดอกเบญจมาศต่อครอบครัว/ครั้ง เฉลี่ยอยู่  8,200 บาท/ครั้ง/โครง

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี กล่าวเพิ่มอีกว่า การจัดงานเบญจมาศบานในม่านหมอก ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ.2562 ระหว่างวันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ 2562 โดยองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี  ร่วมกับอำเภอวังน้ำเขียว และส่วนราชการต่างๆ โดยจัดในหัวข้อ (Theme) “มาบอกรัก ฝากใจไว้ที่วังน้ำเขียว”  ดำเนินการออกแบบ ตกแต่งแปลงเบญจมาศ แปลงดอกไม้ สวนหย่อมและสถานที่ภายในงาน ตลอดจนกิจกรรมภายในงาน  มีความคืบหน้าไปประมาณร้อยละ ๖๐ ของเนื้องาน มีกำหนดพิธีเปิดในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา  17.00 น.   ณ บริเวณการจัดงานเบญจมาศบานองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี  โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และจะมีกิจกรรมพิเศษในพิธีเปิด คือ การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการจดทะเบียนสมรสกลางสวนเบญจมาศในวันแห่งความรัก  การจัดงานในครั้งนี้คาดว่ารูปแบบจะออกมาดีและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ภายในงานนอกจากมีแปลงดอกเบญจมาศหลากหลายสายพันธุ์ และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด แปลงผักปลอดสารพิษแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ คือการออกร้านจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากชุมชนในตำบลและอำเภอวังน้ำเขียวการออกร้านนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การจดทะเบียนสมรสกลางแปลงเบญจมาศในวันแห่งความรัก การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้มาท่องเที่ยว 100,000  คน  รายได้ที่เข้าพื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท  เกษตรกรมีช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น  ผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหารต่าง ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น  นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ได้รู้จักตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว และได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวและชุมชนโดยรวม หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนมีโอกาสได้ทำงาน ได้เรียนรู้ร่วมกันเกิดการพัฒนา ความรู้ ความสามารถ และเพิ่มความสัมพันธ์ในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น  ราษฎรในหมู่บ้านเกิดการเรียนรู้ มีการพัฒนาแบบเป็นองค์รวม นำไปสู่ความเป็นชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว กล่าวถึงการจัดการจราจร และการรักษาความปลอดภัยของผู้มาเที่ยวงาน ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานและพื้นที่อื่นๆในเขตอำเภอวังน้ำเขียว ให้เกิดความสะดวกในการเดินทางและมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเถอวังน้ำเขียว

 

พิสิษฐ์  เขื่อนเพ็ชรต์ / ศูนย์ข่าวนครราชสีมา