ปทุมธานี ผู้นำเกษตรอำเภอคีรีมาศสร้างรายได้เสริมเลี้ยงด้วงสาคู
ปทุมธานี ผู้นำเกษตรอำเภอคีรีมาศสร้างรายได้เสริมเลี้ยงด้วงสาคู
นายสุภาส อภัยนอก เกษตรอำเภอคีรีมาศ นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่เข้าพบนายบุญเลิศ คงน้อย ผู้นำเกษตรอำเภอคีรีมาศ ที่สร้างรายเสริมโดยการเลี้ยงด้วงสาคูหรืออีกชื่อหนึ่ง ‘ด้วงมะพร้าว‘ ซึ่งแมลงชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทางภาคใต้ของประเทศไทย และในหลายๆปีที่ผ่านมาก็ได้แพร่หลายและมีการเพาะเลี้ยงกันทั่วประเทศ ส่วนนายบุญเลิศ คงน้อย เจ้าของด้วงสาคูฟาร์มบุญเลิศที่เลี้ยงด้วงสาคูจนประสบความสำเร็จอย่างมากอีกหนึ่งรายได้เผยถึงวิธีการเลี้ยง และเทคนิคดีๆในการเพาะเลี้ยง‘ด้วงสาคู‘ ทำอย่างไรให้ผลผลิตออกมาดีและมีคุณภาพ โดยนายบุญเลิศ คงน้อยได้ให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่าตนมีอาชีพทำนาและปลูกอินทผาลัม ช่วงเวลาว่างหลังการเก็บเกี่ยวก็เลยมาเลี้ยงด้วงสาคูซึ่งตนได้ เลี้ยงด้วงสาคูมาเป็นเวลา 30 กว่าปี จริงๆแล้ว การเลี้ยงด้วงสาคูเป็นแมลงที่เลี้ยงง่ายไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นักโดยสูตรอาหารของทางฟาร์มบุญเลิศจะใช้สัดส่วนดังนี้ 1.หัวอาหารหนูเล็กและรำข้าวอย่างละ 3 ขีด , 2.มันตากแห้ง 1 กิโลกรัม, 3. ต้นสาคูสับละเอียด ละเอียด 1 กิโลกรัม, นำมาใส่ภาชนะที่จะเลี้ยงเมื่อเตรียมส่วนประกอบครบถ้วนแล้วนำมาผสมกันในกะละมัง โดยเติมน้ำลงไปให้พอแฉะๆ และใช้เปลือกมะพร้าวปิดหน้าอาหารไว้ พร้อมนำกล้วยน้ำว้า 3 ลูก มาวางไว้ เป็นอาหารสำหรับพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ พร้อมนำฝามาปิดโดยให้มีรูระบายอากาศถ่ายเทและนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จำนวน 5 คู่ ใส่ลงในภาชนะกะละมังที่เตรียมไว้ ซึ่งปกติแล้วด้วงสาคูจะไข่ทุกวัน หลังจากปล่อยพ่อพันธ์ุแม่พันธุ์ลงไปทิ้งระยะเวลาประมาณ 15 วัน เมื่อลูกตกแล้วให้จับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปเลี้ยงในกะละมังอันใหม่เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป โดยวงจรชีวิตของด้วงสาคู สามารถอยู่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ ก็จะตาย หลังจากนั้นก็หมั่นดูหน้าอาหารไม่ให้แห้ง ซึ่งถ้าหน้าอาหารแห้งก็ให้พรมน้ำ เลี้ยงจนตัวหนอนโตประมาณเท่านิ้วโป้ง ใช้เวลาประมาณ 30 วัน ก็สามารถจับส่งขายได้แต่หากต้องการเลี้ยงเพื่อเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ต้องเลี้ยงไปอีกประมาณ 20 วัน ตัวหนอนก็จะเริ่มเข้าฝัก คล้ายดักแด้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 วันก็จะออกมาเป็นตัวด้วงสาคู สำหรับวิธีการส่งขายตัวหนอนด้วงสาคู ก่อนจะนำส่ง 1 วัน ทางฟาร์มบุญเลิศ จะทำการล้างท้องตัวหนอน ด้วยการให้หนอนด้วงสาคูกินใบเตยหอมหรือกล้วยน้ำว้าไว้ 1 คืน เพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งหากไม่ล้างท้องกลิ่นของตัวหนอนก็จะมีลักษณะเหมือนสูตรอาหารที่เลี้ยงไว้ โดยใน 1 กะละมัง จะได้น้ำหนักตัวหนอนประมาณ 8 ขีด หรือประมาณ 100-150 ตัว
ส่วนราคาขายจะเป็นตัวสดๆ จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งสร้างรายได้ 30,000 ถึง 50,000 ต่อเดือน ทั้งนี้มองว่าอนาคตของด้วงสาคู จะโตขึ้นอีกอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มพ่อค้าต่างชาติให้ความสนใจมากขึ้น โดยหนอนด้วงสาคู สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด อาทินำไป คั่ว ทอด ย่าง แกงเห็ด แกงหน่อไม้ สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงด้วงสาคูสามารถติดต่อได้ที่ 99 หมู่10 ตำบลสามพวง อำเภอคีรีมาศจังหวัดสุโขทัย หรือ โทรศัพท์ 089-6382755 นาย บุญเลิศ คงน้อย ผู้นำเกษตรอำเภอคีรีมาศ
สหรัฐ แก้วตา ปทุมธานีรายงาน