ทูตญี่ปุนร้อง รมต.ยุติธรรมตามคดีฆาตกรรมนางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่สุโขทับ
ทูตญี่ปุนร้อง รมต.ยุติธรรมตามคดีฆาตกรรมนางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่สุโขทับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้อนรับ เจ้าหน้าที่ทางการทูต ประเทศญี่ปุ่น
ติดต่อประสานความร่วมมือคดีนางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
ถูกฆาตกรรมที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. 2550
วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.00 น. กระทรวงยุติธรรม นำโดย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้การต้อนรับ นายโทโมยูกิ ฟูจิยามะ หัวหน้านายตำรวจญี่ปุ่น/เลขานุการเอก และนายฮิโรยูกิ มูระมัตสึ เลขานุการโทและกงสุล เพื่อหารือกรณีนางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ ซึ่งถูกฆาตกรรม เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวน
คดีพิเศษ และสถาบันนิติวิทยาศาตร์ ให้การต้อนรับและร่วมหารือ ประกอบด้วย พันตำรวจเอก อัครพล
บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ
ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีการค้ามนุษย์และคดียาเสพติด พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษและรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
กรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 188/2556 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 โดยได้รับคดีดังกล่าวภายหลังจากเกิดเหตุประมาณ 6 ปี ต่อมาได้ยุติการสอบสวน เนื่องจากไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม กรมสอบสวนคดีพิเศษยังดำเนินการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยคณะพนักงานสืบสวนได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยใช้ข้อมูล
ที่ได้รับจากการแจ้งเบาะแสเข้ามาเป็นระยะ และข้อมูลจากบุคคลในพื้นที่ที่ได้มีการลงพื้นที่สืบสวน และได้มีผู้ให้ข้อมูลว่ามีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งเป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้ แต่ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2553
คณะพนักงานสืบสวนจึงได้นำกระดูกของผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวมาทำการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับ
สารพันธุกรรมที่พบที่ขอบกางเกงของนางสาวโทโมโกะฯ แต่ไม่สามารถตรวจหาสารพันธุกรรมจากกระดูกได้เนื่องจากกระดูกถูกเผาด้วยความร้อนสูง ต่อมาพนักงานสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวมีบุตรชายหนึ่งคน จึงได้ทำการเก็บสารพันธุกรรมเพื่อนำมาเปรียบเทียบค่าโครโมโซม Y ตามหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ ในการพิสูจน์การเป็นบิดาบุตร และยังทราบอีกว่าผู้ต้องสงสัยยังมีพี่ชายต่างมารดา และหลานชายอีกหนึ่งคน ซึ่งทำงานอยู่ที่ไต้หวัน พนักงานสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ จึงได้เดินทางไปไต้หวัน
เมื่อปลายปี พ.ศ. 2562 เพื่อทำการเก็บสารพันธุกรรมนำมาตรวจหาความสัมพันธ์ของค่าโครโมโซม Y ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมของบุคคลทั้งสาม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แจ้งผลการตรวจพิสูจน์ว่า
สารพันธุกรรมของบุคคลทั้งสามไม่ตรงหรือไม่มีความสัมพันธ์กับค่าโครโมโซม Y ที่ขอบกางเกงของนางสาวโทโมโกะ คาวาชิตะ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ พนักงานสืบสวนได้ส่งวัตถุพยานของผู้ตาย ซึ่งประกอบด้วย เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว, เสื้อแขนยาวสีน้ำตาล, กางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงิน ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจพิสูจน์ซ้ำอีกครั้ง
โดยใช้วิธีการตรวจหารูปแบบสารพันธุกรรมด้วยน้ำยาใหม่ที่ตรวจจากเดิม 16 ตำแหน่ง เป็น 24 ตำแหน่ง
ซึ่งผลการตรวจทำให้พบรูปแบบสารพันธุกรรมเพิ่มขึ้น จากเดิมที่พบ 16 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นเป็น 22 ตำแหน่ง จาก 24 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนหาผู้กระทำผิดมากขึ้น และจากการตรวจพิสูจน์และวิเคราะห์รูปแบบสารพันธุกรรมบนโครโมโซม Y (Y Chromosome) จากกางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงินในฐานข้อมูล
สารพันธุกรรมเพศชาย YERD ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์จากเครือข่ายนิติพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ผู้แทนจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตํารวจ ผู้แทนจากห้องปฏิบัติการมนุษย์พันธุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ และผู้แทนจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า
มีความเกี่ยวข้องกับคนเชื้อชาติญี่ปุ่นหรือเกาหลี และเห็นพ้องกันว่าควรแจ้งข้อมูลให้ทางประเทศญี่ปุ่นรับทราบและจะใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนต่อไป
จากการเข้าหารือกับหัวหน้าตำรวจประจำสถานทูตญี่ปุ่น มีความประสงค์จะขอให้
กรมสอบสวนคดีพิเศษ นําพยานหลักฐานที่เป็น DNA ซึ่งตรวจพบที่เสื้อผ้าของผู้ตาย โดยขอให้นําข้อมูลนี้ไปประสานกับทาง INTERPOL เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลอาชญากรของ INTERPOL ซึ่งในกรณีนี้ คณะพนักงานสืบสวนกำลังหาแนวทางการนำสารพันธุกรรมต้นแบบที่มีอยู่ไปค้นหาในฐานข้อมูลของ INTERPOL ต่อไป และคณะพนักงานสืบสวนได้ประสานกับหัวหน้านายตำรวจประจำสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อดำเนินการตามช่องทางกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้ทางการญี่ปุ่นดำเนินการร้องขอต่อศาลในการเชิญตัวผู้ต้องสงสัย
ชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มาตรวจสารพันธุกรรม เพื่อนำมาตรวจเปรียบเทียบกับสารพันธุกรรมที่พบที่ขอบกางเกงของนางสาวโทโมโกะฯ รวมทั้งคณะพนักงานสืบสวนจะทำการสืบสวนเพิ่มเติมว่า ในช่วงเกิดเหตุ นอกจากผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวแล้ว ยังมีชาวเกาหลีหรือชาวญี่ปุ่น เข้ามาเที่ยวในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยในช่วงวันเวลาเกิดเหตุอีกหรือไม่ อย่างไร ซึ่งผลการดำเนินการมีความคืบหน้าเป็นประการใดจะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป
กระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด เพื่อร่วมมือกันคลี่คลายคดีดังกล่าวต่อไป
……กระสุนไฟ….