เหยื่อครูปาแก้วนอนพัก รักษาตัว รพ ยันฮี

เหยื่อครูปาแก้วนอนพัก รักษาตัว รพ ยันฮี

จากกรณี น.ส.นฤดี จอดสันเที๊ยะ หรือทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ครูพละ ปาแก้วกาแฟใส่บริเวณกกหูซ้าย ส่งผลให้ใบหน้าผิดรูป ปากเบี้ยว และเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ที่ รพ ยันฮี เมื่อเวล11.00 น วันทีี20 กย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางมาที่ รพ ยันฮี เพื่อเข้าเยี่ยม น.ส.นฤดี หรือ น้องทราย ที่นอนพักรักษาตัว อยู่ที่ห้องพัก951ือีกครั้ง หลังจากที่
ทางแพทย์ตรวจสุขภาพวัดความดัน ก่อนส่งไปตรวจสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง(MRI) ไปแล้วก่อนหน้านี้
โดย มี นพ.สุพจน์ สมัฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี ให้การต้อนรับ
โดย นพ.สุพจน์ เปิดเผยว่า ตามที่น้องทรายได้เดินทางมาเข้าพบแพทย์ รพ. ยันฮีเมื่อวันที่ 14 ก.ยที่ผ่านมาจากนั้น น.พ สุธน พิศูทธินุศาสตร์ และทีมขณะที่รักษา ได้ร่วมกันตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่ากล้ามเนื้อใบหน้าซีกซ้ายไม่ทำงาน มีอาการปากเบี้ยวและไม่สามารถหลับตาซ้ายได้สนิท ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ข้างซ้าย
ทางทีมแพทย์ได้ลงความเห็นร่วมกันว่าสมควรตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพราะจากการตรวจร่างกายยังไม่สามารถระบุได้ว่าความผิดปกติของเส้นประสาทสมองอยู่คู่ที่ 7 ข้างซ้ายนั้นเกิดจากสาเหตุใดจึงได้รับน้องทรายไว้เป็นคนไข้ในรพ.ยันฮี เมื่อวันที่ 16 กย 59 ที่ผ่านมาและได้ส่งน้องไปไปตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI ในเย็นวันเดียวกัน
ต่อมาวันที่ 17 กยได้ประสานงานไปที่ร.พบํารุงราษฎร์ เพื่อเข้ารับการตรวจ ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของใบหน้าด้วย EMG โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก ร พ บํารุงราษฎร์
ผลการตรวจร่างกายได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์พบว่าการมองเห็นอยู่ในเกณฑ์ปกติเลนส์ตาและจอประสาทตาซ้ายปกติมีภาวะตาแห้งข้างซ้าย
ผลการตรวจเลือด พบความสมบูรณ์เม็ดเลือดการทำงานของตับไต เกลือแร่อยู่ในเกณฑ์ปกติผลการตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI พบว่ามีความผิดปกติของเส้นประสาทที่เลี้ยงใบหน้าด้านซ้ายตั้งแต่บริเวณ ปมเส้นประสาทด้านในกระโหลกศีรษะยาวจนถึงส่วนที่อยู่กระดูกหลังหูซึ่งความผิดปกติที่อาจเกิดได้จากการติดเชื้อหรือการอักเสบของเส้นประสาท
ผลการตรวจ EMG พบว่าเส้นประสาทใบหน้าด้านซ้ายแขนงที่เลี้ยงหนังตา โหนกแก้มไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นด้วยไฟฟ้ามีความเสียหายปานกลางถึงรุนแรงส่วนแขนงที่ไปเลี้ยงกล้ามพบความผิดปกติเช่นกันแต่ความเสียหายเส้นประสาทน้อยกว่าผลตรวจ CT Scan ไม่พบรอยแตกขมับกระดูกขมับทั้ง 2 ข้าง
ทางแพทย์ลงความเห็นว่าเนื่องจากอาการเส้นประสาทอักเสบของน้องทรายยังอยู่ในช่วงที่มีโอกาสฟื้นตัวได้การรักษาในระยะนี้จึงเน้นไปในทางการรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัดให้การรักษาภาวะตาแห้งด้วยการหยอดน้ำตาเทียมและปิดตาในเวลากลางคืนรวมไปกับการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกดูวิธีการฝังเข็มและให้ออกซิเจนแรงดันสูงทั้งนี้จะประเมินผลการรักษาทุกเรียนต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นอาจรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งปกติจากพิจารณาจะพิจารณา ทำหลังเกิดอาการอย่างน้อย 1 ปี
ข้อมูลข่าวภาพ/มูลนิธิปวีณาฯ