ชาวอำเภอคีรีมาศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และชมรมแม่บ้านอำเภอคีรีมาศ ขอให้ย้ายนายอำเภอคีรีมาศออกนอกพื้นที่โดยเร็ว
ชาวอำเภอคีรีมาศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และชมรมแม่บ้านอำเภอคีรีมาศ ขอให้ย้ายนายอำเภอคีรีมาศออกนอกพื้นที่โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ที่ว่าการอำเภอคีรีมาศ สื่อข่าวรายงานว่า ชาวอำเภอคีรีมาศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขอให้ย้ายนายอำเภอคีรีมาศออกนอกพื้นที่โดยเร็ว โดยมีนายวิฑูรย์ แดงอิ่ม กำนันตำบลหนองกระดิ่ง และประธานชมรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านของอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย อสม. และชมรมแม่บ้านอำเภอคีรีมาศ ด้านนายวิฑูรย์ แดงอิ่ม กำนันตำบลหนองกระดิ่ง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ให้ละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่าเนื่องด้วยปัจจุบัน นายบัญหาร บุญมี นายอำเภอคีรีมาศ ย้ายมาเป็นนายอำเภอคีรีมาศ ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนกว่า ชาวอำเภอคีรีมาศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีความคาดหวังว่า นายอำเภอคีรีมาศจะเป็นผู้นำการทำงานในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนและมีภาวะความเป็นผู้นำ สุภาพ ทั้งกายและวาจา เป็นตัวอย่าง เป็นผู้นำการปกครองให้กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการในพื้นที่แต่กลับพบว่าการทำงานของนายบัญหาร บุญมี นายอำเภอคีรีมาศ ท่านนี้กลับ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง จนกระทบกับการทำงานของราษฎรในพื้นที่ ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และความรู้สึกของข้าราชการผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มผู้นำ ก็ได้ประสบเหตุการณ์ด้วยตนเอง เช่น
1. แสดงความเกรี้ยวกราด ฉุนเฉียว ด่าทอ หนีออกจากที่ประชุม เมื่อไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยืนต้อนรับตอนเข้าไปในพื้นที่ จนทำให้ ทุกตำบลที่นายอำเภอจะไปร่วมประชุม ร่วมงานต้องยืนรอให้การต้อนรับทุกตำบล เพื่อให้เกียรติตนเองว่ามีตำแหน่งเป็นนายอำเภอ ส่งผลต่อความรู้สึกของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรที่เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
2. เมื่อนายอำเภอไม่พอใจในเหตุการณ์ใดๆ แม้ว่าจะอยู่ในที่สาธารณะไม่สามารถควบคุมสติ อารมณ์ตนเองได้ จะใช้คำพูดหยาบคาย ด่ากราด ไม่เหมาะสม ข่มขู่ โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่นั้นๆ เช่น หมออนามัย อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จนท.ที่ทำงานบนอำเภอทุกๆ งาน ท่านสามารถถามจากคนที่ทำงานในพื้นที่ร่วมกับท่านนายอำเภอคนนี้ในเวลาที่ผ่านมาว่า พบเจอกับพฤติกรรมที่ กล่าวมาหรือไม่ จนตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนเกิดความหวาดกลัว ไม่มีกำลังใจทำงาน ท้อแท้ หวาดกลัวว่าหาก ทำงานไม่ตรงความต้องการนายอำเภอคนนี้ จะถูกว่ากล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรง ไม่เคยให้เกียรติใคร ด่าลูกน้องต่อ หน้าสาธารณะชน ไม่เคยฟังใคร จนตอนนี้มีแต่คนอยากย้ายไปทำงานที่อื่น บางคนก็อยากลาออก
3. มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบมากถึงความรู้สึกชาวบ้านไม่ใช่ แค่คนทำงานแต่ลามไปถึงความรู้สึกชาวบ้าน คือ เมื่อนายอำภอคีรีมาศ เวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น. ได้เข้าไปต่อว่า ด่าทอ หมออนามัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่ารับคนจากตำบลอื่น เข้ามากักตัวที่บ้านซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้อย่างไร หมออนามัยพยายามบอก ว่า ทั้งสองคนเป็นสามี ภรรยากันและคนที่เหลืออีก 3-4 คนเป็นคนท่าฉนวนเค้าเป็นครอบครัวเดียวกันเค้าเดินทางจากต่างจังหวัดเข้าพื้นที่มาพร้อมกัน โดยหมออนามัยพยายามรายงานกับนายอำเภอว่าได้มีการสอบถามคนในพื้นที่แล้ว คนในพื้นที่ก็ไม่มีปัญหา เพราะเค้าเป็นแฟนกัน เป็นญาติ เป็นครอบครัวเดียวกัน แต่นายอำเภอคนนี้ไม่ฟัง ด่าหมออนามัยทำให้สะเทือนใจ จนขอลาออก ไล่ให้ผู้ใหญ่บ้านลาออก ไม่ฟังเหตุผลใดๆและให้ขับไล่คนที่ไม่ใช่คนคีรีมาศออกจากหมู่บ้านออกไปเดี่ยวนั้น ขนาดเวลานั้นเป็นเวลามืดค่ำแล้ว ชาวบ้านและคนทำงานรู้สึกสลดหดหู่กับพฤติกรรมของนายอำเภอมาก รู้สึกว่าคนเป็นนายอำเภอสนใจแต่ยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จนละเลยมนุษยธรรม คำพูดออกมาคำหยาบคาย ขึ้นมึง กู มีแต่คำด่าทอ พูดวกไปเวียนมา จนกว่าคนตำบลท่าฉนวนต้องออกนอกพื้นที่
สหรัฐ แก้วตา ภาพ/ข่าว รายงาน