นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่โคราชรับฟังปัญหาด้านต่างๆในโอกาสมาประชุมครม.สัญจร
วันนี้ (21 ส.ค. 60) เวลา 08.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมา โดยเข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และเดินทางต่อไปยังเทศบาลตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกลับมาประชุมที่หอประชุมเปรมติณสุลานนท์ ศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยหารือถึงแนวทางการพัฒนาภาคอีสาน ซึ่งจะช่วยสร้างความเจริญเติบโตให้กับประเทศ โดยผู้แทนจากกลุ่มต่าง ๆ เสนอแนวทางการพัฒนาภาคอีสาน โดยให้มีการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เร่งรัดโครงการที่ลดปัญหาการบริหารจัดการน้ำ เสนอให้สร้างแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็กแบบหลุมขนมครก เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำนอกเขตชลประทาน ให้มีการจัดการน้ำรองรับภาคอุตสาหกรรมให้เพียงพอ ให้บริหารจัดการช่องทางผ่านแดนของคนกับสินค้าในลักษณะ One Stop Service และเสนอจัดทำผังเกษตร ให้สอดคล้องกับการจัดทำแผนการจัดหาน้ำ เชื่อมโยงกับเกษตรนอกเขตชลประทาน โดยนายกรัฐมนตรี มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาบนพื้นฐานความจำเป็นและความคุ้มค่า และคำนึงถึงความเหมาะสมและกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่
จากนั้นเวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปที่บึงกระโตน อำเภอประทาย เพื่อรับฟังรายงานการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครราชสีมา โอกาสนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ได้รายงานการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครราชสีมาทั้งระบบว่า อ่างเก็บน้ำบึงกระโตน เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ก่อสร้างเมื่อปี 2495 ซึ่งตั้งอยู่ในลุ่มน้ำลำสะแทด มีความจุอ่างเก็บน้ำ 10 ล้านลูกบาศ์กเมตร อยู่ในเขตพื้นที่ชลประทานประมาณ 3,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคสำคัญให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2557 -2559 รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ โดยได้มีการพัฒนาอ่างเก็บน้ำให้เต็มศักยภาพ พร้อมได้น้อมนำศาสตร์พระราชา “แก้มลิง” “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน อีกทั้งกรมชลประทาน ได้ทำการเพิ่มความจุของอ่างจาก 6 ล้านลบ.ม. เป็น 15 ล้านลูกบาศ์กเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการก่อสร้างระบบคลองชักน้ำ จากห้วยแอกไปลงบึงกระโตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2559 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการใช้น้ำ ในพื้นที่อำเภอประทาย ได้เป็นอย่างมาก
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับและกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะพี่น้องประชาชนชาวอำเภอประทาย เมื่อเช้าวันนี้ได้มีการหารือแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลายๆ อย่างไม่ได้ทำในวันเดียว ต้องสะสมมาเรื่อยๆ รัฐบาลนี้ได้พยายามขับเคลื่อนในสิ่งที่เป็นปัญหาของภาคอีสานคือดินไม่ดี น้ำไม่พอ ฝนแล้ง การอุตสาหกรรมไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะได้รับความสนใจน้อย ดังนั้น รัฐบาลมุ่งมั่นหาแนวทางที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น อีกทั้งยังมีการจัดระบบการบริหารราชการแผ่นดินรายภาคใหม่ จากเดิม 4 ภาค เพิ่มเป็น 6 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกที่มีโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และกลุ่ม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำไมต้องแบ่งภาคเพราะต้องมีกฏหมายบางตัวบางฉบับ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนา เครื่องจักรเครื่องยนต์ออกมาที่ทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้น และนำเงินเหล่านี้มาเติมโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ อีกทั้งรัฐบาลได้ดำเนินการโครงการที่สำคัญต่างๆมากมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของอำเภอประทาย โดยขอให้เน้นการสร้าง Package การท่องเที่ยวเพื่อให้มีความโดดเด่น อาทิ ประทาย 1 2 3 เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย และในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีอยากให้ประชาชนรักบ้านเมือง รักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ให้มาก โดยต้องสร้างสิ่งเหล่านี้กลับมาด้วยใจของพวกเราทุกคน
และเวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่บ้านหนองขี้เหล็ก ตำบลวังหิน อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่นอกเขตชลประทานประสบปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบและปัญหาในการประกอบอาชีพและการคมนาคมไม่สะดวก ถนนมีลักษณะเป็นหลุมเป็นบ่อ เนื่องจากงบประมาณของเทศบาลตำบลวังหินมีงบประมาณไม่เพียงพอจึงไม่สามารถดำเนินการให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง รัฐบาลจึงได้สนับสนุนงบประมาณผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ อาทิ โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ โครงการเน็ตประชารัฐ โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล เป็นต้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมกิจกรรมนโยบายของรัฐบาล ประกอบด้วย หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชผักปลอดภัยสารพิษและโครงการเน็ตประชารัฐ ซึ่งทางจังหวัดได้นำอินเตอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ประกอบด้วย ตู้ช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ AED Smart Cabnet ใช้โทรฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ออกมาให้ความช่วยเหลือได้ทันถ่วงที ศูนย์ Emergency Medical Services ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือให้คำปรึกษาวินิจฉัยให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในโรคเฉพาะทาง เพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนจะส่งผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชสีมา โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์สามารถช่วยเหลือประชาชนลดอัตราการตาย และให้ขยายการดำเนินการออกไปให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พบปะกับชาวบ้านตำบลวังหินที่มาให้การต้อนรับพร้อมกล่าวชื่นชมประชาชนที่รวมกลุ่มกันทำเกษตรแปลงใหญ่ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลอย่างเดียว ถือเป็นหมู่บ้านตัวอย่างแสดงถึงความเข้มแข็ง สามัคคีปรองดอง พร้อมฝากให้ส่วนราชการเข้าไปส่งเสริมให้ความรู้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปและเป็นตัวอย่างในการปฏิรูปตัวเอง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
พิสิษฐ์ เขื่อนเพ็ชรต์ / ศูนย์ข่าวนครราชสีมา