หนังคนละม้วน เศรษฐีนีตามหาผัว เผยสุดทนหนีออกมาเอง ยันขอแยกทาง
หนังคนละม้วน เศรษฐีนีตามหาผัว เผยสุดทนหนีออกมาเอง
จากกรณีที่ นส.มัลลิกา โกละกะ อายุ 57 ปี ที่อยู่ 401/154 ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แขวง ทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้แจ้งว่า แฟนตนเองชื่อ นายสรายุทธ หรือ ยุทธ ยิ่งเจริญ อายุ 53 ปี ที่อยู่ 170/69 หมู่บ้านภัสสร ถนนราชพฤกษ์-ติวานนท์ หมู่ที่ 1 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้หายตัวออกจากบ้านเลขที่ 170/69 หมู่บ้านภัสสรถนนราชพฤกษ์-ติวานนท์ หมู่ที่ 1 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยน่าจะมีคนเอารถมารับไป ปัจจุบัน นายสรายุทธ ยิ่งเจริญ ยังไม่กลับมาบ้าน ผู้แจ้งเป็นห่วง เกรงว่า นายสรายุทธ ยิ่งเจริญ จะได้รับอันตราย เบื้องต้นได้แจ้งความร้องทุกพข์ไว้กับ พ.ต.ต. ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานีแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.30 น. ทางด้าน นายสรายุทธ หรือ ยุทธ ยิ่งเจริญ อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นางสาวสายฝน หรือฝน หรือเล็ก เหลืองสนธยา อายุ 44 ปี ที่อยู่ 95/29 หมู่ที่ 5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้เดินทางมาที่ สภ. เมืองปทุมธานีเพื่อเข้าพบกับ พ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี และ พ.ต.ต. ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อแสดงความ บริสุทธ์ใจ หลังจากที่ตกเป็นข่าวที่อดีตภรรยาร้องขอความช่วยต่อสื่อมวลชน จากการหายตัวไปจากบ้านพัก
ทางด้าน นายสรายุทธ หรือ ยุทธ ยิ่งเจริญ อายุ 53 ปี กล่าวเปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนออกมาเรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งที่สวนพริกไทยเพื่อไปหานางสายฝน หรือเล็ก และที่ตนเองตัดสินใจออกจากบ้านเพราะตนเองเบื่อและทนไม่ไหวถูกภรรยาด่าทุกวันด่า ไอ้..เมื่อไรมึงจะตายเสียที ทรัพย์สินที่ติดตัวมาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเลี่ยมทอง 2 บาท ทองได้ขายไปหมดแล้ว และเหลือโทรศัพท์อีกเครื่อง ส่วนเงิน 6,000 บาทนั้นตนเองได้โอนไปให้ทางญาติเล็กจริง แต่เป็นการเพื่อใช้หนี้ เพราะตนเองขอยืมเป็นค่าเดินทางค่ารถ โดยเดินทางไปกับนางสาวเล็กไปด้วยกันตลอด ตนเองไม่ได้มีการนัดแนะอะไรกับนางสาวเล็ก ตอนที่ไปหาเขา เขาอยู่ที่ร้านสวนพริกไทย วัดเสด็จเขายังงงทั้งหมดทั้งมวนเป็นความคิดของตนเอง ไม่มีใครชักจูง และที่หนีออกไปและไม่อยากติดต่อหรืออยากคุยกับทางภรรยาที่อยู่กันมานานกว่าสิบปี แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส และไม่มีลูกด้วยกัน และที่ตนเองอัดอั้นตันใจทนมานานเกือบสองปี หลังจากป่วยตนเองใส่เสื้อเองไม่ได้เขาก็กระชาก กระชาก เหมือนไม่เต็มใจ เหมือนว่า เราเป็นภาระให้ทางเขา มีการทำกรมธรรม์ประกันชีวิต หากตนตายด้วยอุบัติเหตุเ ขาจะได้เงิน 10 ล้านบาท โดยทางภรรยาเป็นคนทำและที่ตนเองมาโรงพักแสดงตัวเพื่อให้ทางนางสาวสายฝน หรือเล็ก เขาได้พ้นมณทินที่ถูกกล่าวหาว่า ล่อลวงตนเองไปซึ่งตนเองอายุ 53 ปีแล้ว ทางนางสาวสายฝน อายุ 44 ปีเราโตแล้วไม่มีใครมาล่อลวงเราได้และขอยืนยันว่า ตนเองทำด้วยตนเองทั้งหมดไม่มีใครมาล่อลวงและที่บอกว่า ตนเองสมองครึ่งซี่กความจำเสื่อม จำไม่ค่อยได้ ตนเองขับรถกลับจากกระบี่ได้คนเดียวจำได้ทุกอย่าง และสิ่งที่ทำคิดเองทั้งหมดและวันนี้ขอลงบันทึกประจำ ขอแยกทางกับภรรยาจะไม่ขอกลับไปคืนอีกแล้ว ซี่งต่อไปก็จะขอออกไปหาอาชีพ ไปหางานทำ และยืนยันว่าจะไม่กลับไปกับภรรยา ตนเองไม่เอาแล้ว ส่วนหลังแยกทางกับภรรยา ตนเองจะไปอยู่กับนางสาวเล็กหรือไม่ อันนี้อยู่ที่อนาคตก็ถามเขาว่า เขาจะอยู่กับผมและเขาจะดูแลได้ไหม เรื่องที่เขามีสามีอยู่ก็ทราบแต่ไม่ได้มีการคุยกัน
ด้านนางสาวสายฝน หรือเล็ก กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนเองแม้แต่ลูกของตนเองก็ถูกทางเขาคุกคามข่มขู่ พี่สาว พี่ชาย ถูกคุกคามหมดทุกคนกลัวไม่ได้ทำกินคอยเป่าว่า ให้ตำรวจตามล่าถ้าเจอตัวจะกระตื๊บทำร้ายลูกของตนเองอายุ 8 ขวบก็ให้คนไปหาที่โรงเรียนถามหาตนเองแล้วเด็กจะคิดยังไง เด็กไม่ได้ไปสอบเพราะขู่ จะจับตัวเพื่อดึงให้แม่ออกมา ส่วนนายสรายุทธตนเองไม่ได้คุยกันหรือนัดแนะ แต่เฮียสรายุทธ มาตนเองที่ร้านเอง แต่ตอนที่อยู่ทำงานตนเองดูแลเฮียเขา แต่ไม่เคยพูดให้เขาออกมา และตนเองอยู่ทำงานได้ค่าตอบแทนแค่ 2000 บาท และที่ตนเองดูแลเฮียเขาดูแลเหมือนลูกจ้างกับนายจ้าง คือไม่มีอะไรกัน และหาว่าตนเองไปพูดว่า ได้สามีเป็นนายจ้างแล้ว ตนเองไม่เคยพูด ผู้ชายที่เอาไปพูดเขารู้กัน และตนเองก็ไม่มีสามีผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สามี ลูกสาวก็เป็นของสามีเก่าที่เลิกไปแล้ว แต่เขามาใส่ร้ายหาว่า ตนเองเอาผัวนายจ้างตอบแทนด้วยการเนรคุณ ทั้งทั้งที่ตนเองไม่มีอะไรและกล่าวว่า ตนเองเข้าหาเฮียในห้องเพราะตนเองเลี้ยงแมวไว้ ห้องนั้นตนเองต้องทำความสะอาดห้องและให้ยาแมวสองตัวที่ไม่สบายอยู่ ตนเองมีกุญแจอยู่ แต่ไม่เข้าหาเฮีย ส่วนตอนนี้ตนเองกับเฮียมีความสัมพันธ์กันแล้ว แต่ตอนที่ถูกเขาใส่ร้ายยังไม่มีอะไรกัน มีความสัมพันธ์กันหลังเฮียหนีออกจากบ้าน ส่วนเขาบอกว่า เขาช่วยเหลือตนเองและให้งานทำเขาช่วยเหลือจริง
ต่อมานางสาวมัลลิกา โกละกะ อายุ 57 ปี ภรรยาได้เดินทางถึงและเปิดประตูห้องสอบสวนตรงเข้าถีบนางสาวสายฝน หรือเล็ก และด่าว่าเนรคุณเลี้ยงไม่เชื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ากั้นพร้อมให้ออกไปอยู่ด้านนอกก่อน จากนั้นได้เรียกให้นางสาวมัลลิกาเข้ามาคุยเจรจากับนายสรายุทธสามี โดยแยกนางสาวเล็กไปอยู่อีกที่ ซึ่งทางฝ่ายสามียืนยัน และมีความประสงค์จะแยกทางกับนางสาวมัลลิกา โดยนายสรายุทธฯ และมอบทรัพย์สินให้กับนางสาวมัลลิกา
1.บ้านเลขที่ 170/69 หมู่บ้านภัสสร 26 หมู่ 1 ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีพร้อมที่ดิน
2.อาวุธปืนยี่ห้อคาร์ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก 3.ห้องพักอาคารเอื้ออาทรบ้านฉาง ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี อาคาร 16 ชั้น 1 จำนวน 1 ห้อง 4.ห้องพักเลขที่ 132/4 อาคารเอื้ออาทรบางคูวัด อาคาร 5 ห้อง 4 ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี
จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 ห้อง 4.กรมธรรม์ประกันชีวิตของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ผู้เอาประกันชื่อนางสาวมัลลิกา โกละกะ จำนวน 2 กรมธรรม์ 5.กรมธรรม์ประกันชีวิต ของบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด ผู้เอาประกันชื่อนางสาวมัลลิกา โกละกะ
จำนวน 1 กรมธรรม์ คู่กรณีได้ตกลงกันด้วยดีไม่มีผู้ใดบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะต่างคนต่างเดินทางกันกลับ
นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า เลือกทางฝ่ายนั้นแต่เท่าที่เจอเขาวันนี้เปลี่ยนเยอะเปลี่ยนที่ไม่ได้เจอ 7วันด้วยผู้หญิงคนนั้นจะพูดยังไงตนเองไม่ทราบคุยจบกับเขายังไงคือเขาเปลี่ยนไปและวันนี้ก็มีการตกลงกันกับสามีในเมื่อเขาไปที่ไปทางนั้นก็แยกทางกันคือวันนี้จบกันด้วยดีเขาจะไปจะโดนหลอกหรือไม่โดนหลอกก็พี่ไม่ทราบถ้าจะไปจริงมาบอกกันดีๆส่วนทรัพย์สินได้มีการลงบันทึกเขายกให้ทางพี่หมด