ตำรวจภาค1 ร่วมกับ ปปส.โชว์ผลงานจับยาบ้าล็อตใหญ่ของกลาง 5,300,000เม็ด ย่านหนองเสือปทุมธานี รวมต่างด้าวเฝ้ายาได้1รายส่วน2ผัวเมียตัวการใหญ่ทิ้งรถพร้อมของกลางหลบหนีไปได้
ตำรวจภาค1 ร่วมกับ ปปส.โชว์ผลงานจับยาบ้าล็อตใหญ่ของกลาง 5,300,000เม็ด ย่านหนองเสือปทุมธานี รวมต่างด้าวเฝ้ายาได้1รายส่วน2ผัวเมียตัวการใหญ่ทิ้งรถพร้อมของกลางหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 02.00.น.วันที่ 25เมษายน 2567 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภ.1, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1
ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางซไรตุซ อน อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ตามบัตร 50/4 ถ.เพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 13ถุงดำ ภายในบรรจุยาเสพติดกระสอบละ 20 แพ็คจำนวน 12 ถุงดำ และถุงดำละ 10 แพ็ค จำนวน 1 ถุงดำรวม 250 แพ็ค ( จำนวน 1,250 มัด ประมาณ 2,500,000 เม็ด )แบ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีส้ม ด้านหนึ่งเรียบส่วนอีกด้านหนึ่งมีตัวอักษร “WY” บรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน ถุงละประมาณ 200 เม็ด มัดรวมกัน จำนวน 10 ถุง ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว และพันทับด้วยพลาสติกใสเป็น 1 มัด (ประมาณ 2,000 เม็ด) และพันด้วยพลาสติกสีเหลืองแพ็ครวมกันหอหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลืองประทับตรา 999 สีน้ำเงิน จำนวน 5 มัด เป็น 1 แพ็ค (ประมาณ 10,000เม็ด) รวมจำนวน 170 แพ็คแบ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีแดง ด้านหนึ่งเรียบส่วนอีกด้านหนึ่งมีตัวอักษร “WY” บรรจุในถุงพลาสติกสีแดง ถุงละประมาณ 200 เม็ด มัดรวมกัน จำนวน 10 ถุง ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว และพันทับด้วยพลาสติกใสเป็น 1 มัด (ประมาณ 2,000 เม็ด) และพันด้วยพลาสติกสีเหลืองแพ็ครวมกันหอหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลืองประทับตรา 999 สีแดงจำนวน 5 มัด เป็น 1 แพ็ค (ประมาณ 10,000เม็ด)รวมจำนวน 80 แพ็ครวมยาบ้าประมาณ “2,500,000 ”เม็ดพบซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร รถยนต์โตโยต้ายาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร ซึ่งตรวจยึดบริเวณถนนเลียบคลองชลประทานส่งน้ำ 2 ซ้าย ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
จากนั้นกำลังชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นยาเสพติด ภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีซุกซ่อนอยู่ภายในห้องเก็บของเป็นยาเสพติดประเภท (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ได้อีกจำนวน จำนวน 280 แพ็ค (จำนวน 1,250 มัด ประมาณ 2,800,000 เม็ด )แบ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีส้ม ด้านหนึ่งเรียบส่วนอีกด้านหนึ่งมีตัวอักษร “WY” บรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน ถุงละประมาณ 200 เม็ด มัดรวมกัน จำนวน 10 ถุง ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว และพันทับด้วยพลาสติกใสเป็น 1 มัด (ประมาณ 2,000 เม็ด) และพันด้วยพลาสติกสีเหลืองแพ็ครวมกันหอหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลืองประทับตรา 999 สีน้ำเงิน จำนวน 5 มัด เป็น 1 แพ็ค (ประมาณ 10,000เม็ด) รวมจำนวน 210 แพ็คแบ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีแดง ด้านหนึ่งเรียบส่วนอีกด้านหนึ่งมีตัวอักษร “WY” บรรจุในถุงพลาสติกสีแดง ถุงละประมาณ 200 เม็ด มัดรวมกัน จำนวน 10 ถุง ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว และพันทับด้วยพลาสติกใสเป็น 1 มัด (ประมาณ 2,000 เม็ด) และพันด้วยพลาสติกสีเหลืองแพ็ครวมกันหอหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลืองประทับตรา 999 สีแดง จำนวน 5 มัด เป็น 1 แพ็ค (ประมาณ 10,000เม็ด) รวมจำนวน 70 แพ็ครวมยาบ้าประมาณ 2,800,000 เม็ด รวมของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นยาบ้าทั้งหมดประมาณ 5,300,000 เม็ด
นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด พบซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ ไม่พบหมายเลขทะเบียนปืน พร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน พบวางอยู่บนเบาะหน้า ข้างคนขับภายในรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือ1เครื่องตรวจยึดจาก นางซไรตุซ อน สัญชาติกัมพูชา โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหานางซไรตุซ อน เพิ่มเติมว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง.ผบช.ภ1 หัวหน้าชุดจับกุมเปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก ชุดจับกุม และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี และจากการขยายผลการจับกุมทำให้ทราบว่ามี นายศรายุทธหรือเอ็ม ประวัติ(ปัจจุบันหลบหนีอยู่) เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ 1/2563 ลงวันที่ 10 มกราคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 364/2564 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ ซึ่งปัจจุบันนายศรายุทธหรือเอ็มฯ ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) แก๊งค์เดียวกับนายต่อ หรือต่อคลองหก (ปัจจุบันหลับหนีอยู่ประเทศลาว) แต่ยังได้เคลื่อนไหวเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด โดยเป็นผู้สั่งการ และติดต่อซื้อ ขายยาเสพติดจากชนกลุ่มน้อย และจากการสืบสวนทราบว่านายศรายุทธหรือเอ็มฯ ได้สั่งการให้ นายวีระยุทธหรือเฟิร์ส รอดตุ้ม ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มทีมลำเลียงภาคเหนือ มาเก็บไว้ภายในบ้านพักที่ตัวเองเช่าไว้ สำหรับเก็บยาเสพติด เพื่อรอรับคำสั่งจากนายศรายุทธหรือเอ็มฯ ที่สั่งการมาทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ให้นำไปส่งให้กับลูกค้า จากนั้นจนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้ทำการสืบสวน และสะกดรอยติดตาม พฤติกรรมของนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ เพื่อหาบ้านพักที่นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ เช่าไว้สำหรับเก็บยาเสพติด จนกระทั่งเมื่อประมาณ กลางเดือนธันวาคม 2566 พบว่านายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และแฟนสาว ได้เช่าบ้านพักเพื่อใช้สำหรับเก็บยาเสพติดในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และมีคำสั่งให้สืบสวนจับกุมให้จงได้ จากนั้นจนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตามนายวีระยุทธและแฟนสาว อยู่โดยตลอด จนกระทั่งนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และแฟนสาว ไหวตัวทันว่ามี จนท. คอยสะกดรอยติดตาม จึงได้ย้ายบ้านเช่าสำหรับเก็บยาเสพติด จาก อ.หนองแค จ.สระบุรี มาที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และจากการสืบสวนพบว่า ในวันที่ 24 เมษายน 2567 นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และแฟนสาว ได้รับยาเสพติดจากทีมลำเลียงยาเสพติด มาเก็บไว้ภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จากนั้น จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้กระจายกำลังอยู่บริเวณโดยรอบทางเข้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.15 น. ของวันที่ 24 เมษายน 2567 นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และแฟนสาว ได้เดินทางโดยใช้รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร มาซื้อ ถุงขยะสีดำ จำนวน 3 แพ็คปากาเคมี และกระดาษทิชชู่ ภายในร้าน MR.D.I.Yต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และเดินทางกลับเข้าไปในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จากนั้นเวลาประมาณ 19.15 น. พบรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร เดินทางออกมา และวิ่งมุ่งหน้าไปทางวัดบึงกาสาม ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยลักษณะรถมีน้ำหนักมาก และได้เลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว จนท. ไม่สามารถติดตามไปได้ จากนั้น เวลาประมาณ 19.40 น. รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ได้เดินทางกลับเข้าไปภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีโดยรถไม่ได้มีน้ำหนักเท่าตอนออกจากบ้านไป จึงเชื่อว่านายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ ได้นำยาเสพติดออกไปส่งมอบให้กับลูกค้า จากนั้นเวลาประมาณ 20.30. น. รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว เดินทางออกมา และวิ่งมุ่งหน้าไปทางวัดบึงกาสาม ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยลักษณะรถมีน้ำหนักมาก จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้สะกดรอยติดตามไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณถนนเลียบคลองชลประทานส่งน้ำ 2 ซ้าย ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี นายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ ทราบว่าถูก จนท. สะกดรอยติดตาม จึงได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่ จนท. ได้ปิดกั้นทางเดินรถไว้ เมื่อนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯทราบว่าถูก จนท.ปิดกั้นทางเดินรถ จึงได้เปิดประตูกระโดดลงคลองชลประทาน และอาศัยความมืดวิ่งหนีวิ่งหลบหนีไปได้
จากนั้นจนท.ตร. และทหารขกท.ศปก.นสศ. จึงได้ตรวจสอบภายในรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กย 4268 กรุงเทพมหานคร พบถุงขยะสีดำมีสิ่งของบรรจุอยู่ภายใน จำนวน 13 ถุงดำ จึงได้เปิดออกดู พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 2,500,000 เม็ด ตามของกลางลำดับที่ 1 และพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ ไม่พบหมายเลขทะเบียนปืน พร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน ตามของกลางลำดับที่ 2 พบวางอยู่บนเบาะหน้า ข้างคนขับภายในรถยนต์โตโยต้ายาริส สีขาวฯ คันดังกล่าว และจากการสะกดรอยติดตาม จึงเชื่อได้ว่าภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี อาจมาเสพติดจำนวนมากซุกซ่อนอยู่อีก จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้เดินทางมาที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และได้เรียกให้คนภายในบ้านออกมา พบนางซไรตุซ อน อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา เลขประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัย และเป็นแฟนสาวของนายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และสามารถพูด ฟัง อ่าน และเขียน ภาษาไทยได้ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.ฯ และเป็นเจ้าพนักงาน ปปส. ได้แสดงความประสงค์เพื่อขอทำการตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีโดยอ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากเนิ่นนานล่าช้า กว่าจะขอหมายศาลมาได้ ยาเสพติดดังกล่าว อาจถูกเคลื่อนย้าย ทำลาย หรือถ่ายโอนไปยังที่อื่น จึงอาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ปปส. ของ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพรเข้าทำการตรวจค้น โดยนางซไรตุซ อน ยินยอมและยินดี นำพา จนท.ตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 2,800,000 เม็ด ตามของกลางลำดับที่ 2 วางอยู่ภายในห้องเก็บของติดกับห้องนอน ภายในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยห้องเก็บของดังกล่าว ไม่ได้ล็อคประตูไว้ พบเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด ตามของกลางลำดับที่ 3 พบซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และพบเอกสารต่างๆ ซึ่งได้จัดทำบันทึกตรวจยึดพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี ไว้แล้วอีกหนึ่งฉบับ พบสมุดบิลเงินสด(จดจำนวนยาบ้าที่รับมา และส่งให้ลูกค้า โดยสอบถามนางซไรตุซ อน ยืนยันว่าเป็นของนายวีระยุทธหรือเฟิร์ส รอดตุ้ม เป็นผู้จดรายการดังกล่าว จำนวน 1 เล่ม ตามของกลางลำดับที่ 10 โดยมีข้อความยาบ้าที่รับมาทั้งหมด 3,800 มัด(ประมาณ 7,600,000 เม็ด)โดยจดแยกไว้ว่า แดง 1450 มัด และส้ม 2350 มัด และได้นำไปส่งให้กับลูกค้าแล้วจำนวน 1,150 มัด(ประมาณ 2,300,000 เม็ด) ซึ่งจากการคำนวณกระดาษที่จดพบว่านายวีระยุทธหรือเฟิร์สฯ และแฟน รับยาบ้ามาทั้ง 7,600,000 เม็ด และได้กระจายนำไปส่งให้ลูกค้าออกไปแล้วจำนวนประมาณ 2,300,000 เม็ด คงเหลือ 5,300,000 เม็ด ตรงตามที่ได้ทำการตรวจยึดยาบ้าตามของกลางลำดับที่ 1 และตามของกลางลำดับที่ 2และพบโทรศัพท์มือถือ ตามของกลางลำดับที่ 6 อยู่ที่ตัวนางซไรตุซ อน และในระหว่างที่ตรวจค้นอยู่นั้นพบว่ามีบัญชีแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อว่า FIGHT โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของนางซไรตุซ อน อยู่โดยตลอด จนท. จึงสอบถามว่าบัญชีแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อว่าFIGHT คือผู้ใด นางซไรตุซ อน แจ้งว่าไม่รู้จัก และจากการสืบสวนของ จนท. พบว่าผู้