ททท.ภาคกลาง ร่วมหารือกับผู้สื่อข่าวภาคกลาง ภาคตะวันออก ถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกัน
ททท.ภาคกลาง ร่วมหารือกับผู้สื่อข่าวภาคกลาง ภาคตะวันออก ถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกัน
(วันที่ 8 มิถุนายน 2567) นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมหารือพบปะสื่อมวลชน กลุ่มคนข่าวภูธร ภาคกลางและภาคตะวันออก ที่เดินทางมาจัดประชุมสัญจร ณ พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดย ททท. ภูมิภาคภาคกลางได้นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว ตามรอย ครม.สัญจร ทั้งเที่ยววัด ชมวัง ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และโครงการพระราชดำริ ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 67 เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี
โดย ททท. ภูมิภาคภาคกลางยังจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ สายศรัทธากับโครงการ “117 เกจิอาจารย์ สังขารเหนือกาลเวลา” ซึ่งแต่ละวัดมีประวัติที่น่าสนใจ จึงเป็นที่สนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวสายศรัทธา เมื่อทุกคนได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดต่างๆในภาคกลาง มีพระเกจิอาจารย์ที่มีอภิญญาสูงส่ง สังขารท่านไม่เน่า ไม่เปื่อย มีลูกศิษย์นับถือมากมาย ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วเราได้เตรียมภาพที่ระลึกมหามงคล ซึ่งปลุกเสกโดย 10 เกจิอาจารย์ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถไปรับได้ที่วัดนั้นๆ 114 วัด
และที่เป็นไฮไลท์ในขณะนี้ก็คืออโครงการ “เที่ยวฟิน in ภาคกลาง” เมื่อทุกท่านได้เดินทางไปท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติในมุมต่างๆ และมีการเข้าพักในโรงแรม รีสอร์ท ต่างๆ ใน17 จังหวัดภาคกลาง สามารถนำใบเสร็จมาแลกเสื้อฟรี ผ่าน Shop แม็คยีนส์ ซึ่งผลิตเสื้อยืดลายเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด จำกัดจังหวัดละ 1,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 17,000 ดังนั้น จึงมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกิดขึ้นในแต่ละจังหวัด ซึ่ง ททท.ภาคกลาง จะมีการนำเสนอรายละเอียดให้สื่อมวลชนรับทราบเพื่อร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไป ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าการสื่อสารในยุคดิจิตอล รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ถือว่าเข้ามามีบทบาทกับการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทย และการท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งสำคัญที่นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้นโยบายและพยามผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยเพราะการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ และการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด และถือว่าจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจสร้างรายได้เข้าประเทศและกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน
พิชัย ศรีรุ่งเรือง รายงาน