พี่สาวร้อง “ปวีณา” น้องสาว 11 ขวบสุดอาภัพ หลงคิดว่าซาตานเป็นพ่อแท้ๆ ทนทุกข์ถูกคนที่เรียกว่า “พ่อ” ขยี้กามมานาน 3 ปี
พี่สาวร้อง “ปวีณา” น้องสาว 11 ขวบสุดอาภัพ หลงคิดว่าซาตานเป็นพ่อแท้ๆ ทนทุกข์ถูกคนที่เรียกว่า “พ่อ” ขยี้กามมานาน 3 ปี
ตั้งแต่ 8 ขวบถึง 11 ขวบ ไม่กล้าบอกใครเพราะห่วงว่า “พ่อจะติดคุก” ขอช่วยให้พ้นขุมนรกด้วย “ปวีณา” ประสาน ผกก. รองผกก.สภ.ท่าตะเกียบ จับกุมทันที สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เตรียมคุมฝากขังศาล 27 ก.ย.นี้
วันที่ 26 ก.ย.67 น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาวจ.ฉะเชิงเทรา ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ด.ญ.พิม (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี น้องสาว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แชตมาบอกว่า ถูกพ่อของอดีตสามีตน วัย 60 ปี ข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่ 8 ขวบเรื่อยมา ล่าสุดถูกกระทำเมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 โดยมีคลิปวีดีโอขณะถูกกระทำเป็นหลักฐาน ตอนนี้น้องสาวก็ยังอยู่ที่บ้านของพ่ออดีตสามี ไม่รู้จะช่วยน้องสาวอย่างไร ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือน้องสาวให้พ้นขุมนรกด้วย
น.ส.พร กล่าวว่า ด.ญ.พิม น้องสาวเป็นเด็กที่อาภัพถูกพ่อทิ้งไป หลังแม่คลอดได้ 16 วันแม่ก็ถูกจับติดคุก ตอนนั้นตนอยู่กินกับนายหมู (นามสมมุติ) อดีตสามี ด้วยความสงสารจึงรับด.ญ.พิมมาเลี้ยงดู โดยให้อยู่กับบ้านพ่อแม่นายหมู ซึ่งด.ญ.พิม ก็เรียกพ่อแม่ของนายหมูว่า พ่อและแม่ เพราะเข้าใจว่าเป็นพ่อแม่แท้ๆ มาตั้งแต่เล็ก โดยพ่อแม่ของนายหมูก็ได้ทำหนังสือมอบอำนาจจากพ่อแม่ของด.ญ.พิม ให้ดูแลลูกจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ
กระทั่งด.ญ.พิม อายุได้ 4 ขวบ ตนตั้งท้องกับนายหมูและจับได้ว่านายหมูมีผู้หญิงอื่นจึงเลิกรากัน ตอนนั้นตนเห็นว่าพ่อแม่ของนายหมูรักและเลี้ยงดูด.ญ.พิมอย่างดี จึงไม่ได้นำน้องสาวออกมาจากบ้านนั้นด้วย จากนั้นตนก็ได้พาลูกไปเจอปู่ย่าบ้างและได้เจอด.ญ.พิมเป็นอย่างครั้งก็ดูเหมือนไม่มีอะไร จนเมื่อไม่กี่วันนี้ตนได้แชตเฟซบุ๊กคุยกับด.ญ.พิม โดยน้องสาวบอกว่ารู้ความจริงแล้วว่าพ่อแม่ของนายหมูไม่ใช่พ่อแม่จริงๆ เพราะเห็นเอกสารที่ระบุชื่อพ่อแม่แท้ๆ ขณะไปทำบัตรประชาชน
ด.ญ.พิม ยังได้เล่าอีกว่า ถูกพ่อนายหมูข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่ 8 ขวบเรื่อยมาเวลาที่ภรรยานายหมูไม่อยู่ โดยเขาข่มขู่ว่า “อย่าไปบอกใคร ถ้าบอกใครแล้วพ่อจะติดคุก” น้องสาวรักพ่อนายหมูเพราะคิดว่าเป็นพ่อแท้ๆ จึงไม่ได้บอกใคร จนมารู้ความจริงก็ต้องทนทุกข์อยู่ที่บ้านนั้นเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้น้องทนไม่ไหวแล้วจึงขอให้ตนช่วยเหลือ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปช่วยน้องออกจากบ้านนั้นอย่างไร จึงติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ มอบหมายให้ พ.ต.ท.มงคล จันทร์พลอย รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ รับดำเนินการคดีนี้ โดยนางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาน.ส.พร และแม่แท้ๆ ของด.ญ.พิม ไปแจ้งความกับที่สภ.ท่าตะเกียบ ขณะเดียวกัน นางปวีณาได้ประสาน นางปราณี ประทุมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา พาแม่กับน.ส.พร ไปรับด.ญ.พิมที่โรงเรียนเพื่อรับเด็กเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพทันที
ล่าสุดวันนี้ 26 ก.ย.67 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.มงคล จันทร์พลอย รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ว่า หลังทำการสอบสวนผู้เสียหายและได้คลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าตะเกียบได้ไปควบคุมตัวนายหมู พ่ออดีตสามีที่ก่อเหตุมาทำการแจ้งข้อหา อนาจารเด็ก และครอบครองสื่อลามก เนื่องจากตรวจพบในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาพบหลักฐานภาพและคลิปลามกเป็นจำนวนมาก สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
จากนี้จะได้ส่งด.ญ.พิมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและทำการสอบสหวิชาชีพ หากผลตรวจร่างกายพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจะแจ้งข้อหา กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปี และข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป
นางปวีณา กล่าวว่า ขอขอบคุณ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ พ.ต.ท.มงคล จันทร์พลอย รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าตะเกียบทุกนายที่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนและจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และขอบคุณ นางปราณี ประทุมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา และหัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ช่วยเหลือเด็กหญิงรับเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ จากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือด.ญ.พิม ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป.
สหรัฐ แก้วตา ภาพ/ข่าว/รายงาน