ปวีณาฯ เป็นประธานเปิดโครงการยิ้มสวยด้วยแพทย์ ช่วยเหลือเด็กปากแหว่ง – เพดานโหว่ ปีที่ 21
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เป็นประธานเปิดโครงการยิ้มสวยด้วยแพทย์ เพื่อช่วยเหลือเด็กปากแหว่ง – เพดานโหว่ ปีที่ 21
ร่วมกับโรงพยาบาลยันฮี และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ช่วยเหลือเด็กจนหายดีแล้ว 1,578 คน
เมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค.61 ที่โรงพยาบาลยันฮี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นประธานเปิดโครงการ
ยิ้มสวยด้วยแพทย์ ปีที่ 21 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี กับกรมพัฒนาสังคม
และสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยนางสาวเสาวลักษณ์ วิจิตร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสิทธิ
และสวัสดิการคนพิการ และมูลนิธิปวีณาฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความพิการของเด็กปากแหว่ง – เพดานโหว่ที่มี
ฐานะยากจน
นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้จัดโครงการยิ้มสวยด้วยแพทย์อย่างต่อ
เนื่องมาเป็นปีที่ 21 โครงการนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 ถือเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมที่น่าภาคภูมิใจของโรงพยาบาลเป็นอย่างยิ่ง โดยมีเด็กที่ได้รับการผ่าตัดรักษาไปแล้วทั้งสิ้น
1,578 ราย และยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ให้หายเป็นปกติอย่างต่อเนื่องทุกปีๆ ละ 100 ราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่ง
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณเพื่อให้การช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสคิดเป็นมูลค่ากว่า 55 ล้านบาท
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า เมื่อปี 2541 ขณะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
และสวัสดิการสังคม นพ.สุพจน์ ได้เสนอโครงการช่วยเหลือสังคมช่วยเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ร่วมทำกับกระทรวงฯ จึงเป็นจุดเริ่มต้น
และอนุมัติโครงการ โดยตนเองได้ตั้งชื่อให้เป็น โครงการยิ้มสวยด้วยแพทย์โดยเริ่มทำครั้งแรกในปีนั้น และทำต่อมาอย่างต่อเนื่อง
ตลอดทุกปี ขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 20 ปี โครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาความพิการของเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ที่ด้อย
โอกาสไปแล้ว 1,578 รายทั่วประเทศ ซึ่งปัญหาความยากจนและด้อยโอกาสของสังคมในการรักษาพยาบาลยังเป็นผลกระทบสำคัญที่
เกิดขึ้นกับครอบครัวของคนไทยในทุกมุมของประเทศ แม้ว่าหน่วยงานของรัฐจะพยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถดำเนิน
การได้อย่างทั่วถึง เพราะภาครัฐเองก็ยังขาดงบประมาณรวมไปถึงบุคลากรที่ไม่เพียงพอ ซึ่งต้องขอขอบคุณและชื่นชมทีมงานโรง
พยาบาลยันฮีรวมทั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และสื่อมวลชนทุกท่านที่มีเจตนารมณ์ที่ดีร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้เมืองไทยไร้ผู้พิการและจะได้มีคนที่ยิ้มสวยด้วยแพทย์มาแทนที่ และขอ
ให้สื่อมวลชนได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์โครงการดีๆ นี้ เพื่อให้ประชาชนที่ยากจนได้รับทราบโดยทั่วกัน
ล