ปทุมธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เกียรติมาเป็นประธาน เปิดงานมหกรรมสุขภาพ” ขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์” เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานี ปีงบประมาณ 2562 ณ วัดโบสถ์ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เกียรติมาเป็นประธาน เปิดงานมหกรรมสุขภาพ” ขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์” เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานี ปีงบประมาณ 2562 ณ วัดโบสถ์ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 เมื่อเวลา 09.00 น. ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมสุขภาพ”ขับเคลื่อนการเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์” เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานี ปีงบประมาณ 2562 มีพระราชาราเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี(ฝ่ายธรรมยุต)พระมหาเถระเถระและพระคุณเจ้าทุกรูป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี ประธาน กต.ตร.สถานีตำรวจตำรวจภูธรสามโคก วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี นายอำเภอสามโคก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามโคก นายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการอำเภอสามโคก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าร่วมงาน ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามท่านดร.พินิจ บุญเลิศผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีกล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้กระผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานมหกรรมสุขภาพขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานีปีงบประมาณ 2562 ในวันนี้ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่กระทรวงสารณสุขดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์พระพุทธศาสนา เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มเย็นของสังคมไทยมีอิทธิพลต่อวิถีการดำเนินชีวิต ค่านิยมและความเชื่อของคนไทยต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน สถาบันศาสนาเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติกิจกรรมด้านต่างๆทั้งพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาศูนย์การศึกษา ท้องถิ่น ตลอดถึงแหล่ง สืบทอดและเรียนรู้ทางศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญ ในแต่ละท้องถิ่นในสภาพที่เปลี่ยนแปลงทำให้การดำเนินชีวิตของพระสงฆ์มีความแตกต่างไปจากอดีตเช่นการเดินบิณฑบาตของพระภิกษุสงฆ์ในเมืองที่ใช้ระยะทางสั้นลงหรือมีรถรับส่งการรับกิจนิมนต์ใช้การเดินทางด้วยทางรถยนต์ทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้น จากการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและการปฏิบัติศาสนกิจที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไปจากพุทธบัญญัติ ที่พระสงฆ์ควรอยู่ในอาการที่สำรวมทำให้พระภิกษุสงฆ์มีข้อจำกัดไม่สามารถออกกำลังกายเช่นบุคคลทั่วไปได้จึงส่งผลให้พระภิกษุสงฆ์มีปัญหาด้านสุขภาพและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ท่านดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีกล่าวต่อว่า กระผมขอขอบคุณสำนักงานสาธารสุขจังหวัดปทุมธานีเครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานีที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพในกลุ่มผู้นำศาสนาซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทยซึ่งเป็นแผนระยะยาวตั้งแต่ปี พ.ศ.2554- 2563 เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรวมทั้งให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ในการดูแลตนเองเพื่อให้สุขภาพกายจิตและสังคมมีภูมิต้านทานโรคไม่เจ็บป่วยด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้ สุดท้ายนี้กระผมขอตั้งจิตอธิษฐานให้ทุกท่าน ที่ประกอบคุณงามความดีในวันนี้จงประสบแต่ความสุขความเจริญมีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงต่อไป
ด้านนายสุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ความเป็นมาของโครงการมหกรรมสุขภาพขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุสงฆ์เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานีในครั้งนี้สืบเนื่องจากโครงการมหกรรมสุขภาพพัฒนาการดูแลสุขภาพพระภิกษุสงฆ์สามเณรเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2559 พบว่าพระภิกษุสงฆ์ในประเทศไทยปีพ.ศ 2559 มีพระภิกษุสงฆ์ 348,433 ลูกจากวัดทั่วประเทศ 4 1,142 วัด ได้รับการคัดกรอง138,715 รูป พบว่าพระภิกษุสงฆ์กลุ่มสุขภาพดีลดลงเหลือร้อยละ
52.3 จากร้อยละ 60.3 พระภิกษุสงฆ์อาพาธกับเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 28.5 จากร้อยละ 17.5 ในปี 2549 ในจำนวนดังกล่าวมีปัญหาไขมันสูงถึงร้อยละ 60 น้ำตาลสูงกว่า ร้อยละ 50 ซึ่งสอดคล้องกับผลการคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังจังหวัดปทุมธานีมีงบประมาณ 2562 จำนวนพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับการตรวจคัดกรองทั้งหมด 1,251 รูปพบไม่มี ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันสูงร้อยละ 68 มีภาวะเสี่ยงร้อยละ 19 และพบว่าด้วย โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร้อยละ 13 แต่พบพระภิกษุสงฆ์มีอัตราดัชนีมวล กายเกินร้อยละ 32.61 จากข้อมูลดังกล่าวมีแนวโน้มพระภิกษุสงฆ์ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตและโรคใดในอัตราสูงขึ้นทุกปี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีและโรงพยาบาลปทุมธานี จึงได้เล็งเห็นปัญหาของพระภิกษุ สุขภาพของกลุ่มผู้นำศาสนา จึงได้จัดโครงการมหกรรมสุขภาพขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ เครือข่ายโรงพยาบาลปทุมธานีปีงบประมาณ 2562 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.ร่วมกับเครือข่ายขับเคลื่อนวัดส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้เกิดมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ให้สอดคล้องกับธรรมวินัยและสถานการณ์ด้านสุขภาพ 2. ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาเครือข่ายในการดำเนินการเพื่อดูแลสุขภาพตนเองของพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่รับผิดชอบรวมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้าง สุขภาวะสุขภาพภาวะของชุมชนและให้มีการสนับสนุนพระภิกษุสงฆ์ได้ศึกษาเรียนรู้ช่วยเหลือฟื้นฟูชีวิตเบื้องต้น (CPR) เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์สามารถประกอบธนกิจได้อย่างเต็มที่และลดปัจจัยเสี่ยงต่อการอาพาธจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงสิงหาคม 2562 กลุ่มเป้าหมายคือพระภิกษุสงฆ์ที่จำวัดในพื้นที่เครือข่ายปทุมธานีจำนวน 700 รูปกิจกรรมทั้งหมด 8 ฐานประกอบไปด้วยฐานที่ 1. คัดกรองโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ฐานที่ 2. โภชนาการให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค ฐานที่ 3.ตรวจเอกซเรย์ปอด ฐานที่ 4. ตรวจรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ฐานที่ 5 เภสัชให้คำปรึกษาเรื่องการสัญญา ฐานที่ 6. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเลิกบุหรี่ ฐานที่ 7. ทำบุญสุขใจใส่สังฆทานและฐานที่ 8. การช่วยฟื้นฟูชีวิตเบื้องต้น CPR ในการ จัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระคุณ พระราชเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ฝ่ายธรรมยุต)และพระคุณเจ้าพระมหาชุมพล เจ้าอาวาสวัดตำหนัก เจ้าคณะอำเภอสามโคก(ฝ่ายธรรมยุต)รวมทั้งคณะกรรมการพัฒนาชีวิตระดับอำเภอสามโคก ท่านได้กล่าวทิ้งท้ายไว้
สหรัฐ แก้วตา ปทุมธานีรายงาน