สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจัดพิธีรับสนองพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน

พฤศจิกายน 23, 2018 14:12 โดย opwnews
0
992

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และแต่งตั้งให้ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นผู้รับสนองพระราชโองการ โดยประกาศ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2561 ทั้งนี้เป็นการโปรดเกล้าฯ แทนการดำรงตำแหน่งของศาสตราจารย์ศรีราชา วงศารยางกูร ที่พ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้
S__45965342
ในวันนี้ (23 พฤศจิกายน 2561) เวลา 09.00 น. สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้จัดพิธีรับสนอง พระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งในพิธีนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเชิญพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งวางหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อ่านพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง หลังจากนั้นพลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน คำนับพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะ ต่อด้วยถวายบังคม 3 ลา หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน
25666
พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2495 ปัจจุบันอายุ 66 ปี สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิตจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการปกครอง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 2548 (วปอ. 2548) หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 17 หลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 3 โดยเริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งผู้บังคับหมวด กองพันทหารราบที่ 1 กรมผสมที่ 2 เคยดำรงตำแหน่ง เจ้ากรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม เลขาธิการสภากลาโหม ตุลาการศาลทหารสูงสุด รองปลัดกระทรวงกลาโหม เคยรักษาราชการปลัดกระทรวงกลาโหมก่อนการเกษียณอายุราชการ ต่อมาได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 และปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2559 จนถึงปัจจุบัน และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
25667
สำหรับนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินคนล่าสุด เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ปัจจุบันอายุ 63 ปี จบการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์)
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาบัตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 48 โดยเริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์งานบุคคล 3 สำนักงาน ก.พ. และดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง นายอำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น นายอำเภอลอง จังหวัดแพร่ นายอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา นายอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทั่งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเช่นกัน
119873
พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนล่าสุด ได้เน้นย้ำถึงหลักการทำงานเพื่อประชาชนว่า “หัวใจหลักสำคัญของการทำงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คือ กัลยาณมิตร ไม่ได้มุ่งแค่เพียงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นปฏิบัติโดยชอบหรือไม่ แต่จะต้องมุ่งไปถึงว่า จะแสวงหาแนวทางการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างไร ระบบการติดตามคำวินิจฉัยจะมีความสำคัญยิ่งขึ้น หากว่าหน่วยงานภาครัฐได้นำเอาข้อเสนอแนะหรือคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินไปดำเนินการ จนสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างเหมาะสม สร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน ก็จะบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการปฏิบัติงานของผู้ตรวจการแผ่นดินและส่วนราชการทุกส่วนในประเทศไทย”




--!>