มทร.ธัญบุรี “ทำด้วยมือ ส่งมอบด้วยใจ หมวกมัดย้อมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ณ โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี
มทร.ธัญบุรี “ทำด้วยมือ ส่งมอบด้วยใจ หมวกมัดย้อมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ณ โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสะอาด มอบหมวกมัดย้อม จำนวน 200 ใบ ให้กับนายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี โครงการ “ทำด้วยมือ ส่งมอบด้วยใจ หมวกมัดย้อมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ผลงานของอาจารย์และนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ นายสุรจิตต์ แก่นพิมพ์ หัวหน้าโครงการและอาจารย์ประจำสาขาวิชาออกแบบสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เล่าว่า ทางสาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและศิลปะสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จัดโครงการและกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสังคม ยกตัวอย่างเช่น โครงการ “ถักร้อย สานศรัทธา ห่มอังสะพระประธาน 9 องค์ 9 วัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการบริการวิชาการสอนทำผ้ามัดย้อม ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ หมู่บ้านฟ้ารังสิต และชุมชนในเทศบาลตำบลบ้านบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สำหรับโครงการ “ทำด้วยมือ ส่งมอบด้วยใจ หมวกมัดย้อมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” โครงการความร่วมกับ สถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 89.5 FM เพื่อส่งมอบหมวกมัดย้อมที่ ส่งต่อให้กับผู้ป่วยมะเร็ง โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณ-ธัญบุรี ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ ที่ต้องการ โดยหมวกมัดย้อม สามารถสร้างเกราะกำบังส่วนตัวให้กับผู้ป่วยได้เมื่อต้องการ เพราะว่าถ้าใส่วิกผมเป็นเวลานานอาจทำให้ร้อน โดยหมวกมัดย้อม ทั้ง200 ใบ เป็นผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจิตรกรรม ที่เรียนในรายวิชาออกแบบการย้อม เพื่องานออกแบบแฟชั่น การนำศาสตร์ที่ได้เรียนไปประยุกต์และใช้ประโยชน์ในงานด้านการช่วยเหลือสังคม และเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึก ส่งเสริมการลงมือปฏิบัติ โดยได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี จัดทำหมวกมัดย้อมมอบให้กับทั้ง 7 สถาบันมะเร็งทั่วประเทศไทย นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี เผยว่า สำหรับโรคมะเร็งเป็นโรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตอันดับ 1 ใน 1 ปี พบผู้ป่วยจากโรคมะเร็งกว่า 100,000 คน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับโครงการหมวกมัดย้อม เป็นจุดเริ่มต้น ในการช่วยดูแลผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยที่รักษามะเร็งต้องทุกข์จากโรค และจากการรักษา โดยเมื่อรับเคมีบำบัด ทำให้ผมร่วง การมีหมวกทำให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจและเข้าสู่สังคมได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยต่างๆ เช่น การใช้วิกผม ซึ่งการใช้วิกไม่สะดวก ในเรื่องของการดูแล ซึ่งการดูแลวิกค่อนข้างยุ่งยาก ส่วนหมวกจะดูแลง่าย สามารถสวมใส่ออกสู่สังคมได้ง่าย ซึ่งโครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยทางโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยสามารถร่วมมือกัน ช่วยเหลือผู้ป่วยให้เกิดความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในส่วนของงานศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด ซึ่งทางโรงพยาบาลต้องการความช่วยเหลือจากทางมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยเปิดสอนวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย สมารถนำบูรณาการกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีในการร่วมมือดูแลผู้ป่วย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขมากขึ้น ทางด้านผู้ป่วยโรคมะเร็ง เล่าว่า เดิมเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และมาพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อต้นปี จึงเข้ามารักษาโดยการฉายแสงที่โรงพยาบาลประมาณ 2 เดือน ทำให้ผมร่วง ส่วนใหญ่จะสวมหมวกไหมพรมสีดำ สีพื้นไปทำงาน เพราะว่าสุภาพ ที่เลือกสวมหมวกเนื่องจากสะดวกสบายกว่าต้องใส่วิก โดยวิกเมื่อใส่ไปนานจะรู้สึกร้อน และต้องเลือกวิกให้เหมาะกับตัวเราค่อนข้างลำบาก แต่ยังไรก็ตามขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวบุคคล สำหรับหมวกมัดย้อม ชอบมาก ส่วนตัวชอบงานฝีมือ เป็นหมวกที่สวยงาม สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ในการสวมใส่ออกไปข้างนอก ต้องขอบคุณอาจารย์และนักศึกษา ที่ได้จัดโครงการดังกล่าว และมีจิตใจทำเพื่อสังคม และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วย “แคช” นางสาวสิริธิดา หงส์คำ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจิตรกรรม เล่าว่า เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เข้าร่วมทำจิตอาสากับคณะ เมื่อเดือนกรกฎาคม ได้เป็นอาสาสมัครสอนทำผ้ามัดย้อม ให้กับชุมชนในเทศบาลตำบลบ้านบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อโครงการนี้จึงสนใจเข้าร่วม เพราะได้แบ่งปันและมอบกำลังใจให้ผู้ป่วย หมวกมัดย้อมที่ได้ทำกับเพื่อนมีหลากหลายสี และลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งตนเองและเพื่อน ๆ ทำด้วยความเต็มใจ ครั้งแรกที่มีโอกาสได้มาเห็นผู้ป่วยมะเร็ง อยากให้ผู้ป่วยทุกคนมีความสุข หมวกมัดย้อมในวันนี้จะเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วย “แผ้ว” นายบุญญฤทธิ์ สีลาเดช นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจิตรกรรม เล่าว่า เรียนทางด้านศิลปะ นำความรู้ทางด้านศิลปะไปช่วยเหลือสังคม ตนเองเคยเข้าร่วมโครงการของทางภาควิชา เขียนกำแพงโรงเรียนวัดบ้านด่าน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกและเกิดประโยชน์ สำหรับกิจกรรมมัดย้อมหมวกและส่งมอบให้ผู้ป่วยมะเร็ง เป็นโครงการที่ดี ช่วยเหลือผู้ป่วย ซึ่งหมวก 1 ใบ อาจไม่ได้มีราคาอะไร แต่มีคุณค่าทางจิตใจ เหมือนการมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วย เช่นเดียวกับ “ดิว” นางสาวโกลัญญา ชาอุ่น นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจิตรกรรมสากล เล่าว่า ตนเองไม่มีทุนมากมายในการทำบุญ ทางคณะมีโครงการดังกล่าว เป็นกิจกรรมที่ดี ได้นำศิลปะซึ่งเป็นศาสตร์ที่ตนเองรักและชอบมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ปกติชอบทำบุญโดยบริจาคเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว เช่น บริจาคเสื้อผ้าที่บ้านกึ่งวิถีหญิง จังหวัดปทุมธานี ได้มาเห็นผู้ป่วยที่เข้ารักษาทีโรงพยาบาลเห็นใจผู้ป่วย และอยากให้กำลังใจ ถ้ามีโอกาสอยากทำโครงการแบบนี้อีก นอกจากกิจกรรมการมอบหมวกมัดย้อมแล้ว ภายในงานยังมีการแสดงดนตรีบำบัด จากนักศึกษาสาขาวิชาดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา ภาควิชานาฏดุริยางคศิลป์ อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจร่วมมอบกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง ในการจัดทำหมวกมัดย้อมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2691-7781-2 หรือ 094-9918998