ปิดตำนานมนุษย์กินคน ” ซีอุย “

กรกฎาคม 24, 2020 11:46 โดย opwnews
0
255

ปิดตำนานมนุษย์กินคน ” ซีอุย “IMG_20200724_185953
ฌาปนกิจร่าง “ซีอุย” วัดบางแพรกใต้ อังคณา และญาติ ชี้เมื่อตัดสินความผิดไปแล้ว ร่างไม่ควรถูกนำมาประจาน ควรปิดตำนานลงได้แล้ว
เวลา 08.00น.วันที่ 23 ก.ค.63 เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี ได้ทำหนังสือถึงคุณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อแจ้งกำหนดการการ ฌาปนกิจร่าง ซีอุย ที่จัดขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ที่วัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรีซึ่ง เรือนจำกลางบางขวาง เป็นเจ้าภาพกำหนดการเริ่มตั้งแต่ เช้า 07.00น.เจ้าหน้าที่จะเคลื่อนร่าง ซีอุยออกจากโรงพยาบาลศิริราช มายังวัดจากนั้นจะมีพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์-พิธีบังสุกุล ก่อนจะฌาปนกิจในช่วงบ่ายโมง โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวต
นันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธี สำหรับซีอุย ถูกประหารชีวิต วันที่ 16กันยายน 2502 หรือ 60 ปีก่อน จากนั้นได้นำศพมารักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์โรงพยาบาลศิริราช โดยมีป้ายมนุษย์กินคนติดอยู่นาน จนมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ซีอุย บริสุทธิ์ ทำให้มีการเรียกร้องให้ล้างมลทินซีอุย คืนความเป็นมนุษย์ให้
บรรยากาศที่วัดบางแพรกใต้ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มีบิณฑ์บรรลือฤทธิ์ และทีมงานจากมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างศพ ซีอุย มาส่งที่วัดบางแพรกใต้เพื่อทำพิธีการทางศาสนาต่อไป
ขณะที่ นางอังคนา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ กล่าวว่า ในกรณีนี้ถือว่าน่าจะเป็นกรณีแรกในเอเชียแปซิฟิก มันเคยมีอินเดียแดงที่อเมริกาที่ร่างของเขาถูกนำมาสตาร์ฟไว้ในพิพิธภัณฑ์ ต่อมามีการเรียกร้องว่าให้คืนสันติให้เขา ขณะที่ในเมืองไทย เคส ซีอุย นี้น่าจะเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย เนื่องจากมีชาวบ้านชาวทับสะแกเข้ามาร้องเรียน ซีอุยถูกนำร่างมาไว้ในพิพิธภัณฑ์แล้วเขียนป้ายกำกับว่ามนุษย์กินคน มันเป็นการทำลายสิทธิส่วนบุคคลของเขา อีกเรื่องนึงที่ชาวทับสะแก ร้องมาก็คือว่าซีอุยไม่น่าจะเป็นผู้กระทำผิด คือเรื่องนี้ในขณะที่เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชน จึงได้มาหารือกับทางคณะท่านคณบดีแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ในส่วนของคดีเราบอกไม่ได้ว่าที่ผ่านมา 60 กว่าปีมันเป็นอย่างไรบ้าง หรือหากเราจะรื้อฟื้นมันก็คงเป็นไปได้ยาก ซึ่งทางศิริราชเอง ในฐานะที่ได้รับศพซีอุยมาศึกษา ซึ่งเป็นคนดูแลร่าง เมื่อมีชาวบ้านมาร้องทางรพศิริราชก็ต้องมาดูตามข้อกฎหมาย ว่าทางหน่วยงานมีอำนาจแค่ไหน ในการที่จะยึดร่างไว้ ทางหน่วยงานจึงได้ดำเนินการประกาศหาญาติของ ซีอุยก่อน ถ้าหากว่าครบกำหนดในระยะเวลานี้ยังไม่มีผู้ออกมายืนยันว่าเป็นญาติ ทางโรงพยาบาลศิริราชก็จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายที่มีอยู่ได้ให้อำนาจไว้ ซึ่งเมื่อถึงเวลาครบกำหนดก็ไม่มีญาติมาแสดงตัว และในเมื่อไม่มีญาติมาแสดงตัว ถือว่าทางศิริราชเป็นผู้รับร่างมา จากทางราชทัณฑ์เพื่อนในทางการศึกษา ในเมื่อซีอุย อยู่ที่ศิริราชก็เปรียบเหมือนเป็นอาจารย์ใหญ่ ในเมื่อร่างได้เป็นอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ทางศิริราชก็จะคืนร่างซีอุยให้กับกรมราชทัณฑ์ และได้มีการหารือร่วมกันระหว่างทางศิริราชกลับกรมราชทัณฑ์สุดท้ายลงความเห็นว่าร่วมกันจัดงานฌาปนกิจขึ้นให้กับร่างอาจารย์ใหญ่หรือซีอุย มันเหมือนเป็นการตีตราสิทธิมนุษยชน แม้จะเป็นนักโทษประหารชีวิตเขาจะไม่มีญาติ แต่เขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เขาก็ได้รับโทษประหารชีวิตแล้วหรือว่ายุติแล้ว การที่นำเขามาจัดแสดงหรือทำให้คนเห็นว่าหวาดกลัว เกลียดชังอะไรแบบนี้ ก็ไม่สมควรที่จะกระทำ ซึ่งทางคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลก็ได้ร่วมประชุมกันและมีมติให้ดำเนินการทำพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันนี้ แล้วถือว่าเป็นเคสแรกในประเทศไทยนับเป็นเคสแรกในเอเชียแปซิฟิกด้วยกรณีศึกษาต่อๆไปด้วย ซึ่งศพอาจารย์ใหญ่ที่ศิริราชมันเป็นความประสงค์ของผู้เสียชีวิตเจ้าของร่างหรือทางญาติที่จะบริจาคมาให้เป็นอาจารย์ใหญ่ในการศึกษา นอกจากนั้นแล้วโครงกระดูกก็ยังเอามาให้คณะแพทย์นักศึกษาได้เรียนรู้และไม่ได้ระบุชื่อว่ากระดูกของใครเป็นของร่างใคร เพราะฉะนั้นเวลาที่นักศึกษาแพทย์ได้ทำการเรียนรู้ศึกษากับร่างหรือโครงกระดูกนั้นๆก็จะไม่ทราบว่าเป็นของใคร โดยตอนที่เรียนจะรู้ แต่ตอนที่มาทำเป็นโครงกระดูกจะไม่ทราบ
ต่อมาเวลา 10.00 น .ร.ต.ต.พล พรายสถิตย์พร้อมด้วย นางวรรณภา คลองฉิม ได้เดินทางมาถึงพร้อมคณะชาวทับสะแกจำนวน 7คน ได้นำภาพนายซีอุย พร้อมพวงหรีดเดินทางมาถึงร่วมพิธีฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ด้วย ตามกำหนดการพิธีฌาปนกิจ
นางวรรณภา คลองฉิม เปิดเผยว่า อยากให้ไปเกิดในภพภูมิดีๆเพราะว่า ทุกวันนี้เขาถูกตึงมาไว้นานเกิน กว่าที่คนคนหนึ่งจะถูกกระทำ เขาถูกลงโทษขนาดนี้ มีกรรมขนาดนี้ ในความคิดส่วนตัวของดิฉัน ก็อยากให้ทำพิธีเผาเขาแล้วนำอัทฐิเขาลอยอังคาร ก็เขาไม่มีญาติ แต่ฉันได้ใกล้ชิดเพราะซีอุยเคยมารับจ้างทำงานที่บ้านแต่ตัวนี้ฉันยังไม่เกิด แต่เราไม่รับความรู้สึกฝังหัวในใจมาตลอดเพราะผู้ใหญ่เล่าให้ฟังจนมาถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็มีความรู้สึกดีใจ ที่เขาได้หมดกรรมของเขาแล้ว เขาก็อ่านได้เกิดในที่ดีๆแล้วไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไปเราต้องการตรงนั้น ให้ไปสู่สรวงสวรรค์
ร.ต.ต.พล พรายสถิตย์ เปิดเผยว่า จากการที่เดินทางมาถึงก็รู้สึกดีใจที่ได้ทำพิธีทางศาสนาให้เขา โดยปรึกษากับทางผู้ใหญ่ของราชทัณฑ์แล้วมีความเห็นว่าจะมอบหน้าที่ตรงนี้ให้กับทางราชทัณฑ์ดำเนินการต่อ
และเมื่อทำพิธีทางศาสนาเสร็จก็จะเดินทางกลับทับสะแกกันเลย ต่อไปก็มอบหน้าที่ให้ทางสัปเหร่อและเรือนจำดำเนินการต่อ ว่าจะนำอัฐิไปลอยอังคารหรือจะเก็บไว้ที่วัดแห่งนี้ก็ตามแต่ทางเรือนจำจะดำเนินการ
โดยในช่วงเวลาขั้นตอนของพิธีการจะมีประธานในพิธีประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรม ราชทัณฑ์  ดร.มนตรี บุญนาค ผู้บัญชาการเรือนจำบางขวาง ศาสตร์จารย์ นายแพทย์ ธวัชชัย อัครวิพุธ รองคณบดี ฝ่ายบริหาร รพ.ศิริราช พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ กลุ่มบุคคลใกล้ชิดจากทับสะแก และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในการทำพิธีฌาปนกิจ ซีอุย ในครั้งนี้
ข่าวภาพ / สมศักดิ์ นนทบุรี




--!>