พ่อแม่จูงลูกชาย 3 ขวบ เข้าพบ “ปวีณา” ขอความช่วยเหลือ หลังส่งลูกไปอยู่เนอสเซอรี่โรงเรียนเอกชนชื่อดังในจ.นนทบุรี กลับบ้านมาหลังลายมีอาการหวาดผวาไม่กล้าไปโรงเรียนอีก
พ่อแม่จูงลูกชาย 3 ขวบ เข้าพบ “ปวีณา” ขอความช่วยเหลือ หลังส่งลูกไปอยู่เนอสเซอรี่โรงเรียนเอกชนชื่อดังในจ.นนทบุรี กลับบ้านมาหลังลายมีอาการหวาดผวาไม่กล้าไปโรงเรียนอีก “ปวีณา” ประสาน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษา และพ.ต.อ.เมษนนท์ นาเจริญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ความเป็นธรรม และร่วมประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ
วันเสาร์ที่ 20 ก.พ.64 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายแม็ก และนางขวัญ สองสามีภรรยา พาด.ช.กร ลูกชายวัย 3 ขวบ (ทั้งหมดนามสมมุติ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.เมษนนท์ นาเจริญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รองผกก.สส. สภ.รัตนาธิเบศร์ และพ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส. ภ.รัตนาธิเบศร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน และตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ (สช.) เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และประชุมหาแนวทางช่วยเหลือด.ช.กร วัย 3 ขวบ อย่างเร่งด่วนสืบเนื่องจาก นายแม็ก และนางขวัญ ได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพราะเชื่อว่าลูกถูกทำร้ายหลังไปอยู่เนอสเซอรี่โรงเรียนเอกชนชื่อดังในจ.นนทบุรี โดย นางขวัญ เล่าว่า วันที่ 16 ก.พ.64 ได้รับลูกชายกลับจากโรงเรียนและถอดชุดนักเรียนออกเพื่อเตรียมจะไปว่ายน้ำ แต่ลูกชายมีอาการอิดออดไม่อยากถอดเสื้อ เมื่อตนเปิดดูก็พบว่าที่แผ่นหลังชองลูกมีร่องรอยคล้ายถูกทำร้ายเป็นรอยแดงระบม ตนแทบช็อกจึงรีบนำโทรศัพท์มาถ่ายรูปก่อนส่งให้ครูดู และถามว่าเหตุเกิดจากอะไร แต่ครูตอบกลับมาว่าไม่ทราบสาเหตุ เพราะขณะนั้นทางครูมีการเปลี่ยนเวรและให้น้องไปอยู่กับรุ่นพี่ จึงได้เข้าไปติดต่อโรงเรียนขอดูกล้องวงจรปิด แต่ครูให้มาติดต่อในเช้าวันที่ 17 ก.พ 64 ซึ่งในกล้องวงจรปิดเห็นเพียงภาพที่ลูกชายเดินผ่านไปมา จากนั้นตนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบนางขวัญ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนได้รับการติดต่อจากโรงเรียนขอร้องว่ายังไม่ต้องแจ้งความ จะดำเนินการหาสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และได้ให้ตนไปพบพูดคุยค่ารักษาพยาบาลและจะให้เด็กเรียนฟรีเป็นเวลา 1 เทอม ต่อมาวันที่ 18 ก.พ.64 ตนจึงได้เข้าไปติดต่อโรงเรียนเพื่อขอกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ซึ่งพบว่าในห้องมีกล้องวงจรปิดเพียงตัวเดียวและไม่สามารถเห็นทุกมุมของห้องได้“ทางโรงเรียนแจ้งว่าขอรับผิดชอบในเบื้องต้นและขอเวลาในการสืบสวนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวลา 1 เดือน หรือถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมจะทราบผลภายใน 1 อาทิตย์ หรืออาจจะเร็วกว่านี้ แต่ตนรู้สึกร้อนใจมาก ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำร้ายลูกชายตนได้ขนาดนี้ จนปัจจุบันนี้โรงเรียนยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้กับตน อีกทั้งสภาพจิตใจของลูกชายตอนนี้หวาดกลัวมากเมื่อพูดชื่อโรงเรียนขึ้นมา และมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตนจึงตัดสินใจขอเข้าพบ นางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือหาตัวผู้กระทำมาดำเนินคดีโดยเร็ว” นางขวัญ กล่าว
หลังรับเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้โทรตรงไปยัง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษา เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และให้นางกนกวรรณ ได้พูดคุยกับพ่อเด็กโดยตรง ซึ่งนางกนกวรรณ ได้รับปากจะให้ความเป็นธรรม และได้มอบหมายให้ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ (สช.) เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือด.ช.กร อย่างเร่งด่วน และนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาเจริญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อขอให้รับแจ้งความและเร่งสอบปากคำผู้ปกครอง และจัดสอบสหวิชาชีพ ด.ช.กร วัย 3 ขวบ เพื่อให้ความเป็นธรรมและติดตามตัวผู้กระทำมาดำเนินคดีด้านนางปวีณา กล่าวว่า ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของน้องกรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะยังมีอาการหงาดผวา ไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน จึงได้ประสาน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาเจริญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ตรวจสอบหาความจริง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกันขอขอบคุณ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษา ที่ได้รับเรื่องจะตรวจสอบสถานศึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาเกี่ยวกับเด็กถูกกระทำรุนแรง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดร่วมกับ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษา เพื่อให้น้องกรและครอบครัวได้รับความเป็นธรรม และไม่ให้เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นในสถานศึกษาอีก พร้อมกันนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะพาน้องกรไปที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจและฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว.