ปทุมธานี- มรภ.วไลยอลงกรณ์ ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินงานมหาวิทยาลัย ระยะ 5 ปี
ปทุมธานี- มรภ.วไลยอลงกรณ์ ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินงานมหาวิทยาลัย ระยะ 5 ปี
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ผศ.ดร.สุพจน์ ทรายแก้ว อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานเปิด การจัดงานถ่ายทอดทิศทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยระยะ 5 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 “SUSTAINABLE VRU มหาวิทยาลัยแห่งความสมดุลและยั่งยืน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กระบวนการกำหนดทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยสู่การปฏิบัติ และมุ่งสู่เป้าหมายในระยะ 5 ปี ไปในทิศทางเดียวกัน คือ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัยที่มีนวัตกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมฐานรากบนความร่วมมือของหุ้นส่วนทางสังคมให้เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ณ ห้องประชุมเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ 2 ชั้น 3 อาคารเรียนรวมสังคม พร้อมทั้งถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก และผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมี แมน การิน ศตายุ ซึ่งเป็น นศ.หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณทิต เป็นพิธีกรภายในงาน อธิการบดี ยังได้กล่าวถึงการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย ว่า มหาวิทยาลัยจะเน้นการเรียนการสอนแบบ Productive Learning โดยผู้เรียนของเราสามารถที่จะสร้างชิ้นงานที่ประจักษ์ให้คนในสังคมได้เห็น เราเน้นเรื่องของการวิจัยและพัฒนา เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งหมายถึง ชุมชน หมู่บ้าน และโรงเรียน ที่อยู่ในชุมชนหมู่บ้าน เราเน้นการบริการวิชาการ ในลักษณะของการบูรณาการ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงาน การแก้ปัญหาของชุมชนท้องถิ่น นอกจากนั้นยังเน้นในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้ศิลปวัฒนธรรมอยู่ต่อไปคู่กับชุมชน และอยู่คู่กับสังคมไทย และสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไปได้ และในแง่ของการบริหารจัดการ เราเน้นในเรื่องของการมีธรรมมาภิบาล และความเป็นเลิศทางการบริหาร โดยเราได้ยึดค่านิยมหลัก โดยใช้คำว่า VALAYA มาใช้ในการทำงาน โดยตัวหนังสือแต่ละตัวจะมีความหมาย เราทำงานกันในเชิงรุก และมีความคิดสร้างสรรค์ สนใจ ใฝ่รู้ และติดตาม การทำงานในการลงชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในการเป็นกัลยาณมิตรกับทุกหน่วยงาน โดยการทำงานของเราจะต้องมี Model ในทุก ๆ โครงการ นอกจากนั้นในเรื่องของการเรียนการสอน เราได้ใช้การดำเนินงาน VRU.ABCD Learning and Teaching Model ให้เกิด Active Learning และให้ผู้เรียน ชุมชน ได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ และหลักสูตรการเรียนการสอนของเรามีการออกแบบ Design Thinking มาเป็นเครื่องมือในการจัดการ
ในเรื่องของ Otop เรามีความชัดเจนในการจัดทำตลาดสินค้า Otop ให้กับชุมชนได้ ส่วนในเรื่องโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ เราได้จัดให้โรงเรียนสาธิตฯ เป็นโรงเรียนต้นแบบของชุมชน พัฒนาครูให้เป็น Influencer คือ ผู้ที่จะต้องมีอิทธิผลกับผู้เรียน และเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก การสร้างคุณค่าในอุตสาหกรรมใหม่ การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ในการทำงานกับชุมชน เราชัดเจนว่า เราจะเป็นพันธมิตร ในใช้แนวคิด University Engagement คือการสร้างเครือข่ายประชารัฐขึ้นมา เน้นการแก้ไขปัญหา การใช้ศักยภาพของพื้นที่ในการทำงาน นอกจากนั้น เรามีการเป็นแกนนำในการอบรมวิศวกรสังคม ซึ่งต่อไปมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นแบบ The Hybrid Campus : The future of University คือมหาวิทยาลัยที่อยู่ในพื้นที่จริง กับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ห้องเรียนในอนาคตต้องเป็นแบบ Smart Classroom ซึ่งเป็นห้องเรียนที่ปลอดจากโควิด มีการแสดงความคิดเห็น เน้นการปฏิบัติและลงมือทำ มหาวิทยาลัยของเราจะเป็นมหาวิทยาลัยที่พัฒนาท้องถิ่น เป็นมหาวิทยาลัยที่พึ่งพาได้ โดยได้เปิดศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยได้สะสมองค์ความรู้ เพื่อการพลิกโฉมใหม่ของมหาวิทยาลัยให้เป็นแบบ Active Learning เพื่อสร้างกำลังคนให้มีสมรรถนะสูง โดยสรุปคือ เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ TOP 3 ได้รับความเชื่อมั่น ยอมรับด้านความเป็นเลิศและธรรมาภิบาล การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและนวัตกรรมสร้างสรรค์ 4 ด้าน และมหาวิทยาลัยก็จะดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อให้ชุมชน ท้องถิ่น ได้เรียนรู้ ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่อไป
สหรัฐ แก้วตา หน.ข่าว ปทุมธานีรายงาน