วัดพนัญเชิงชี้แจ้งถูกหลอกให้โอนเงิน 13 ล้านบาท

มิถุนายน 28, 2017 23:48 โดย opwnews
0
897

วัดพนัญเชิงชี้แจ้งถูกหลอกให้โอนเงิน 13 ล้านบาท
19576730_10212825267763863_660761267_o
กรณีที่ ปปป.ออกมาระบุว่า มีข้าราชการระดับสูงของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนวัด โดยทำในรูปของ “เงินทอน” คือ ชักเงินกลับจากวัดที่ได้รับเงินอุดหนุนจาก พศ.ในสัดส่วนที่สูงถึง75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินกว่า 60 ล้านบาท โดยมีวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ด้วย
วันที่ 27 มิ.ย. ที่หอประชุมสงฆ์ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัดพนัญเชิง แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการรับเงินอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด
ดร.สมศักดิ์ เปิดเผยว่า สำหรับ วัดพนัญเชิงวรวิหารได้ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เป็นระยะเวลาเกือบ 700 ปีโดยมีพระธรรมรัตนมงคล(แวว กตสาโร ) เป็นเจ้าอาวาส ทางวัดได้ทำการบูรณะ ศาสนสถานที่มีอยู่เดิมและก่อสร้างกุฏิตลอดจนสิ่งปลูกสร้างภายในวัดเรื่อยมา โดยนำเงินที่ประชาชนทำบุญและเงินอุดหนุนจากทางราชการมาดำเนินการ ดังกล่าวในการดำเนินการมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาทิเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตลอดจนคณะกรรมการของวัดได้ร่วมกันตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดตลอดมา
เมื่อประมาณปีพ.ศ 2555 วัดได้ก่อสร้างกุฏิทรงไทยจำนวน 9 หลังและในปี 2556 วัดได้ก่อสร้างทางเดินรอบวิหารหลวงพ่อโต โดยนำรายได้จากการทำบุญและเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามาดำเนินการ เมื่อปลายปี 2556 นางสาวประนอม คงพิกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในขณะนั้นซึ่งรู้จักกับพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส เนื่องจากมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับกิจการของศาสนาโดยนางสาวประนอมได้โทรศัพท์หาเจ้าอาวาสแจ้งว่าทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะให้เงินอุดหนุนทางวัดจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนวัดในงบประมาณปี 2557 เพื่อให้วัดดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์ภายในวัด โดยนางสาวประนอมแจ้งว่าเงินดังกล่าวให้วัดเพื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์จำนวน 2 ล้านบาทส่วนอีก 8 ล้านบาทจะนำไปให้วัดอื่นที่ยากจน และยังขาดทุนทรัพย์ ทางท่านเจ้าอาวาสสงสารวัดอื่นเพราะที่วัด สามารถที่จะดูแลตนเองได้ จึงได้โอนเงินกลับไปจำนวน 8 ล้านบาท โดยผ่านบัญชี นางชมพูนุช จันลือชัย ซึ่งทางเจ้าอาวาสไม่รู้จัก ที่โอนไปเพราะรู้จักนางประนอมมานาน เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ เคยติดต่อกันเกี่ยวกับงานของพระพุทธศาสนา เงิน2 ล้านบาทที่วัดได้ นำไปใช้ปรับปรุงก่อสร้างทางเดินบริเวณวิหารหลวงพ่อโต
ต่อมาประมาณปลายปี 2557 นางสาวประนอมได้ติดต่อมายัง เจ้าอาวาสอีก ว่าจะให้เงินสนับสนุนวัดอีก 10 ล้านบาทแต่ขอให้ทางวัดมอบเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทให้แก่นางสาวประนอมนำไปช่วยวัดอื่นๆที่ยากจนต่อไป โดยมีการนัดหมายมอบเงินสด กันที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ส่วนเงิน 5 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสได้นำไปปรับปรุงกุฏิทรงไทย 9 หลัง
เงินหนุนวัด ทั้ง2 งวด ทางเจ้าอาวาส ได้สอบถามนางสาวประนอมว่าถูกกฎหมายหรือไม่นางสาวประนอมตอบว่าถูกกฎหมายพระธรรมรัตนมงคล จึงเชื่อและดำเนินการตามที่นางสาวประนอมแนะนำมา ประกอบกับเห็นว่านางสาวประนอมเป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณอุดหนุนวัดต่างๆในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
จากนั้นประมาณต้นปีพ. ศ. 2560 พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อขอสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินอุดหนุนที่วัดได้รับมาจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตามที่นางสาวประนอมได้เสนอให้แก่วัดดังกล่าวทางวัดก็ได้ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี และมีการให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดพร้อมด้วยพยานหลักฐานต่างๆหมดแล้ว
ต่อมาพนักงานสอบสวน ป.ป.ป แจ้งข้อกล่าวหากรณีเงินอุดหนุนวัดพนัญเชิงวรวิหารจำนวน 13 ล้านบาทพระธรรมรัตนมงคลเจ้าอาวาสจึงเชื่อว่านางสาวประนอมไม่ได้นำเงินจำนวน 13 ล้านบาทไปดำเนินการช่วยวัดต่างๆตามที่พูดไว้ ทำให้วัดได้รับความเสียหายทางวัดเจ้าอาวาสจึงได้ มีการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษกับนางสาวประนอม ในข้อหาฉ้อโกง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา และร้องเรียน ต่อ นายวิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี และ ร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ทางวัดขอยืนยันที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนข้อเท็จจริงของคดีทั้งหมด

ทีมข่าวพระนครศรีอยุธยา




--!>