“ปวีณา” รับ “น้องพั๊นซ์” 6 ขวบ ถูกไฟฟ้าลานกีฬาดูด เป็นเจ้าหญิงนิทรา กลับจากรพ.ไปดูแลต่อที่บ้านเช่าย่านสวนหลวง

“ปวีณา” รับ “น้องพั๊นซ์”  6 ขวบ ถูกไฟฟ้าลานกีฬาดูด เป็นเจ้าหญิงนิทรา กลับจากรพ.ไปดูแลต่อที่บ้านเช่าย่านสวนหลวง

 

“ปวีณา” บริจาคเตียงผู้ป่วยให้ “น้องพั๊นซ์” ก่อนรับกลับจากรพ.จุฬาฯ ในสภาพเจ้าหญิงนิทรา เพราะถูกเสาไฟฟ้าลานกีฬาชุมชนดูด เป็นเจ้าหญิงนิทรา ให้พ่อกับย่ากลับไปดูแลต่อที่บ้านเช่าย่านสวนหลวง วอนผู้ใจบุญร่วมบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายดูแลผู้ป่วยครอบครัวยากจน ส่วนเรื่องคดีประสาน รอง ผบก.น.5 ย้ำให้ความเป็นธรรม เร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส

 

จากกรณีนายธงชัย ศรีใส อายุ 27 ปี พนักงานส่งเอกสารบริษัทแห่งหนึ่ง และนางปราณี อ้นแสง อายุ 51 ปี มารดา เข้า ร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เรื่องเด็กหญิงวรรณการต์ ศรีใส หรือ น้องพั๊นซ์ ลูกสาวคนโตของนายธงชัย  วัย 6 ขวบ ถูกไฟฟ้าที่รั่วจากเสาสปอร์ตไลท์ ภายในลานกีฬาชุมชนวัดคลองเตยใน 3 แขวง-เขต คลองเตย กรุงเทพฯ ดูดจนเกือบเสียชีวิต ขณะที่ย่าพาไปเที่ยวเล่นในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน และหลังเกิดเหตุญาติและชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้เข้ามาช่วยปั๊ม หัวใจนำส่งโรงพยาบาลย่านคลองเตย ก่อนส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อาการเป็นตายเท่ากัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.59 และได้เข้าแจ้งความไว้ที่สน.ท่าเรือแล้ว จนผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีใครมาช่วยหรือแสดงความรับผิดชอบ จึงเกรงว่าลูกสาวจะเป็นอันตรายถึงชีวิตและไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนตัดสินใจเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาฯ ในวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา

หลังรับเรื่องวันถัดมา (11 ส.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พานายธงชัย และนางปราณี ไปพบพ.ต.อ.สมบัติ แก่นวิจิตร ผกก.สน.ท่าเรือ และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลลานกีฬาชุมชนวัดคลองเตยใน 3 โดยพ.ต.อ. สมบัติ แจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อม กับประสานทางพนักงานสอบสวนแล้ว โดยทำการสอบสวนพยานไปแล้วหลายปากขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบเพื่อ หาผู้ที่มีส่วนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ หากพบว่าผู้ใดกระทำความผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ “น้องพั๊นซ์” ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด อาการยังคงทรงตัว เป็นเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ความคืบหน้าเรื่องนี้หลังสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเพื่อให้เรื่องของ “น้องพั๊นซ์” เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ให้ทุกคนและทุกหน่วยงานช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชุมชนและพื้นที่สาธารณะที่ให้บริการประชาชน และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบ จนเวลาผ่านมานานกว่า 2 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวนายธงชัยแต่อย่างใด

 

ล่าสุดเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ต.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมกับนำรถไปรับ “น้องพั๊นซ์” กลับบ้าน หลังพญ.การะเกด………………………………….แพทย์ที่ให้การรักษาอนุญาตให้ญาติพาน้องพั๊นซ์กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ โดยแจ้งกับนายธงชัย และนางปราณี ผู้เป็นพ่อและย่าว่า ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ และขอให้ทำใจเนื่องจากหลังเกิดเหตุน้องพั๊นซ์มีภาวะหัวใจหยุดเต้น จนสมองขาดออกซิเจน จะอยู่ในสภาพเหมือนเจ้าหญิงนิทรา ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารด้วยสายยางทางหน้าท้อง และมีอาการเกร็งในบางเวลา ญาติต้องให้การดูแลใกล้ชิด และคอยดูดเสมหะทางคอที่เจาะไว้ เพื่อไม่ให้เสมหะไปอุดตันหลอดลม และมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อรับยาไปทานต่อเนื่อง และที่สำคัญต้องระวังเรื่องการติดเชื้อด้วย

 

หลังจากนั้นนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานายธงชัย และนางปราณี พร้อมด้วย “น้องพั๊นซ์” เดินทางกลับไปบ้านที่พัก ซึ่งเป็นห้องเช่าย่านเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เนื่องจากตั้งแต่หลังเกิดเหตุในพื้นที่บ้านพักเดิมในชุมชนคลองเตย ทางครอบครัวต้องเดินทางไปกลับโรงพยาบาลเพื่อดูแลน้องพั๊นซ์ตลอด และก่อนที่แพทย์จะอนุญาตให้รับน้องพั๊นซ์กลับมาดูแล ได้สอบถามถึงความเป็นอยู่สภาพบ้าน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อ นายธงชัยจึงได้ดิ้นรนออกไปหาบ้านเช่าที่ราคาไม่แพง และพอที่สามารถดูแลเรื่องความสะอาดได้ เนื่องจากที่อยู่เดิมในชุมชนค่อนข้างที่จะแออัด

 

นายธงชัย กล่าวว่า ที่ผมสู้ชีวิตทุกวันนี้ก็เพื่อลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ผ่านมาหลังเลิกรากับภรรยาก็รับที่จะดูแลลูกเอง ก่อนหน้านี้ ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นน้องของน้องพั๊นซ์ อายุ 2 ขวบเศษ ก็ประสบอุบัติเหตุตกลงจากโต๊ะ สมองได้รับความกระทบกระเทือน แพทย์ได้ช่วยชีวิตไว้ แต่ยังคงไม่เป็นปกติดีเท่าที่ควร กระทั่ง น้องพั๊นซ์ ก็มาถูกไฟดูดจนเป็นเจ้าหญิงนิทราไปอีกคน ตนแทบหมดกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อเห็นหน้าลูกทั้ง 2 คน ก็ต้องลุกขึ้นสู้เพราะเราเป็น “พ่อ” ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ก็มีแม่ของตนที่คอยช่วยดูแลหลานระหว่างที่ตนต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งตนได้ตัดสินใจย้ายมาเช่าห้องพักเดือนละ 1,500 บาท ย่านสวนหลวง เพื่อดูแลลูก ถึงแม้จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม ขอให้ลูกผมเป็นคนสุดท้าย ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบนี้อีก ลานกีฬาชุมชนมีผู้ดูแล และอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตคลองเตย ตนก็อยากให้คนที่เกี่ยวข้องช่วยกันออกมารับผิด และต่อไปควรมีการตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก

 

ก่อนหน้านี้ที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ทราบว่าแพทย์อนุญาตให้ญาติรับ “น้องพั๊นซ์” กลับไปดูแลรักษาตัวต่อที่บ้านได้ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้นั้น จึงได้บริจาคเตียงผู้ป่วยให้กับน้องพันซ์  เพื่อเป็นการบรรเทาภาระครอบครัวส่วนหนึ่ง

 

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ครอบครัวของนายธงชัย น่าสงสารมากต้องประสบกับชะตากรรมซ้ำซ้อน ลูกสาว 2 คน ต้องมาล้มป่วย ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ และเรื่องของน้องพั๊นซ์ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ซึ่งต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ขอวอนผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคช่วยเหลือ “น้องพั๊นซ์” เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องมีค่าใช่จ่ายในการดูแล อาทิ แพมเพิส สายดูดเสมหะ อาหารเหลว ยารักษา และอื่นๆ โดยติดต่อผ่านมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สายด่วน 1134 หรือ 081-8140244  หรือติดต่อนายธงชัย โดยตรง ได้ที่………………………………………………………………

 

สำหรับเรื่องคดี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานไปยังพล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 ขอให้ช่วยเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรม น้องพั๊นซ์ ด้วย ซึ่งพล.ต.ต.สมประสงค์ ได้รับปาก และสั่งการไปยัง พ.ต.อ.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ รอง ผบก.น.5 ให้ดูแลคดีนี้ ขณะเดียวกัน นางปวีณา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯพานายธงชัย ไปพ.ต.อ.สุชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี “น้องพั๊นซ์” โดยพตอสุชาติ ได้สอบถามเรื่องไปยัง พ.ตทยรรยง สุวรรณสอาด รอง ผกก.(สอบสวน) ท่าเรือ ได้รับรายงานว่า พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีนี้ ได้ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น โดยส่งเรื่องต่อให้ ร.ต.อ.พิชาพัฒน์ ………………….รองสว.(สอบสวน) สน.ท่าเรือ ดูแลคดีต่อ ทั้งนี้ได้สอบปากคำเพิ่มเติมไปแล้วหลายปากพร้อมกับเรียกสอบเจ้าหน้าที่การ ไฟฟ้าในสัปดาห์หน้านี้ ที่ผ่านมาได้แจ้งข้อหาประธานชุมชนกับพวกที่รับผิดชอบลานกีฬาชุมชนวัดคลองเตย ใน 3 กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาด เจ็บสาหัส และอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปฟ้อง หากไม่ทันสัปดาห์หน้าก็จะต้องผัดฟ้องครั้งที่ 2 หลังรับรายงาน พ.ตอสุชาติ ได้กำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายและดำเนินการด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งเรียกคู่กรณีมาเจรจาตกลงค่าเสียหาย หากตกลงกันไม่ได้จะต้องนำผลคดีอาญาไปฟ้องร้องทางแพ่งต่อไป.

เรื่อง ภาพประกอบ โดย สื่อข่าวมูลนิธิปวีณาฯ