ร่วมอาลัยครั้งสุดท้าย! “ปวีณา” เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ สาวไทยวัย 31 ปี ซึ่งเสียชีวิตปริศนาที่ประเทศบาห์เรน
ร่วมอาลัยครั้งสุดท้าย! “ปวีณา” เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ สาวไทยวัย 31 ปี ซึ่งเสียชีวิตปริศนาที่ประเทศบาห์เรน
ที่วัดมงคลวราราม (วัดมะเกลือ) แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ โดยมูลนิธิปวีณาฯ มอบเงินช่วยเหลือในการจัดงานศพ 1 หมื่นบาท ขณะที่แม่ยังสงสัยลูกสาวถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้ายเสียชีวิต เพราะก่อนที่ลูกสาวจะขาดการติดต่อไปได้ส่งคลิปถูกสามีทำร้ายมาให้ดู แต่ต้องทำใจเพราะผลชันสูตรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เบื้องต้นระบุ “ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ เนื่องจากศพเน่าเสื่อมสภาพ” หลังกระทรวงการต่างประเทศเพิ่งแจ้งข่าวการเสียชีวิตผ่านไป 1 ปี ขอก้มหน้าเลี้ยงหลาน 3 คนตามอัตภาพ “ปวีณา” ประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกันช่วยเหลือครอบครัวและการศึกษาเด็กทั้ง 3 คน
วันที่ 23 พ.ค.67 เวลา 14.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.บี (นามสมมุติ) สาวไทยอายุ 31 ปี ซึ่งเสียชีวิตปริศนาที่ประเทศบาห์เรน หลังผ่านไป 1 ปี ทางแม่และญาติถึงทราบเรื่อง โดยสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวอาจถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้าย เพราะก่อนที่ลูกสาวจะขาดการติดต่อไปได้ส่งคลิปสภาพร่างกายที่ถูกสามีทำร้ายมาให้ดู แม่จึงร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา ประสานกระทรวงการต่างประเทศส่งศพกลับมาไทยเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีน้ำใจคนไทยในบาห์เรนร่วมบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่งศพกลับและช่วยเหลือค่าจัดงานศพกว่า 9 หมื่นบาท บรรยากาศภายในพิธีฌาปนกิจศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีแม่ พี่น้อง ลูกทั้ง 3 คนของผู้เสียชีวิต ญาติ และเพื่อนที่รู้จักคุ้นเคยร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ที่วัดมงคลวราราม (วัดมะเกลือ) แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
นางเอม (นามสมมุติ) ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ขอบคุณนางปวีณา ที่ช่วยประสานกระทรวงการต่างประเทศส่งศพลูกสาวกลับมาบ้านเกิด และขอบคุณน้ำใจคนไทยในบาห์เรนที่บริจาคช่วยเหลือกว่า 9 หมื่นบาท โดยแม่จ่ายเป็นค่าดำเนินการส่งศพกลับ 8 หมื่นบาท ที่เหลือ 1 หมื่นกว่าบาท นำมาใช้ในการจัดงานศพ โดยนางปวีณาพาแม่ไปรับศพลูกสาวที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้นว่า “ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดได้ เนื่องจากศพเน่าเสื่อมสภาพ” แม่ก็ต้องทำใจ เพราะว่าผ่านไป 1 ปี กระทรวงการต่างประเทศถึงจะแจ้งข่าวให้ไปดูรูปสภาพศพยืนยันว่าเป็นลูกสาวตัวเอง
“ครอบครัวแม่ฐานะยากจน น.ส.บี ลูกสาวที่เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว เดินทางไปทำงานร้านอาหารที่บาห์เรนเพื่อหาเงินส่งมาให้แม่และเลี้ยงลูก 3 คน แต่ตอนนี้ลูกสาวได้จากไปแล้ว แม่เสียใจมากเพราะถ้าหากรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเร็วก็คงจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกได้ แต่ถึงตอนนี้ก็ต้องทำใจก้มหน้าเลี้ยงหลาน 3 คนต่อไปตามอัตภาพและจะทำหน้าที่ยายให้ดีที่สุด”
นางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน.ส.บี และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยอีกครั้ง ที่บริจาคเงินช่วยเหลือ 92,087.56 บาท เป็นค่าดำเนินการส่งศพกลับและทำบุญช่วยงานศพ จากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้านความเป็นอยู่และการศึกษาของลูก 3 คนของผู้เสียชีวิต และขอเตือนสาวไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศควรจะตรวจสอบให้ดีก่อน เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกหลอกค้าประเวณี ค้ามนุษย์ บังคับให้เสพยาเสพติด บางรายถึงขั้นถูกทำร้ายทุบตีจนเสียชีวิต
สถิติมูลนิธิปวีณาฯ ตั้งแต่ปี 2547-2565 มีสาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศ ที่เป็นอันดับ 1 คือ บาห์เรน จากนั้นในปี 2566 สาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีถึง 219 ราย อันดับ 1 คือ ดูไบ 56 ราย อันดับ 2 คือ เมียนมา 54 ราย อันดับ 3 คือ บาห์เรน 25 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกราย จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือสาวไทยที่เสียชีวิตในต่างประเทศ ตั้งแต่เดือน มกราคม – เมษายน 2567 หญิงไทยเสียชีวิตประเทศมาเลเซีย 3 ราย ประเทศบาห์เรน 2 ราย ไม่ทราบสาเหตุหลายราย ติดตามได้ยากเพราะเป็นการเสียชีวิตที่ต่างประเทศ
สหรัฐ แก้วตา หน ข่าว ปทุมธานี รายงาน