“ปวีณา” เยี่ยมดูอาการให้กำลังใจหนูน้อยวัย 2 ขวบ 2 ราย ที่รพ.ยันฮี หลังประสานช่วยรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว
“ปวีณา” เยี่ยมดูอาการให้กำลังใจหนูน้อยวัย 2 ขวบ 2 ราย ที่รพ.ยันฮี หลังประสานช่วยรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว
รายแรก “น้องแก้ม” ถูกน้ำมันร้อนๆ ในหม้อทอดไก่สาดเข้าที่ใบหน้าเป็นแผลเหวอะพร้อมแม่ รายที่ 2 “น้องหนอน” จากจ.ตรัง ถูกหม้อทอดลูกชิ้นมีน้ำมันร้อนๆ คว่ำใส่ตัว เดินทางมาผ่าตัดครั้งที่ 2 โดยแผลเป็นพังผืดทำให้ขาเดินผิดรูป หนูน้อยทั้งสองจะได้มีชีวิตใหม่ โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแม่ “น้องหนอน” เป็นค่าเดินทางจาก จ.ตรัง มารักษาตัวกรุงเทพฯ ทุกครั้ง สำหรับ “น้องแก้ม” มูลนิธิปวีณาฯ จะพาแม่เด็กไปยื่นขอรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม โดยขณะนี้ได้ประสานเบื้องต้นให้แล้ว
รพ.ยันฮี กรุงเทพฯ : วันที่ 26 พ.ค.67 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปโรงพยาบาลยันฮี โดยประสาน นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลยันฮี ทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด/กรรมการบริษัท มอบหมาย พญ.อรวรรณ โกสุมศุภมาลา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.ยันฮี ให้การต้อนรับ ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้เพื่อเยี่ยมหนูน้อยชายและหญิง 2 ขวบ จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นเคสที่ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ก่อนพาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลยันฮี
เคสที่ 1 “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่โชคร้ายขณะยืนเกาะขาแม่วัย 25 ปี ที่กำลังโต้เถียงกับผู้ดูแลห้องเช่าเรื่องเงินค่าเช่าที่ค้างก่อนจะมีปากเสียงและถูกน้ำมันร้อนๆ ในหม้อทอดไก่สาดเข้าที่ใบหน้าจนน้องแก้มได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพุพองที่ใบหน้า ลำคอ ผิวหนังบางส่วนลอกออกจนเห็นผิวหนังชั้นใน และมีการอักเสบติดเชื้อจนทำให้ใบหน้าบวมและดวงตาปิด ขณะที่ผู้เป็นแม่ได้รับบาดเจ็บที่ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง และตามลำตัว นางปวีณาได้พาเข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลยันฮี เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พญ.อรวรรณ โกสุมศุภมาลา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.ยันฮี เป็นเจ้าของไข้ให้การตรวจรักษา พร้อมด้วย จักษุแพทย์ในการตรวจดวงตาที่บวมปิด และกุมารแพทย์ดูแลด้านสภาพจิตใจ และแพทย์ยังให้การตรวจรักษาแม่ของน้องแก้มโดยการทำแผลป้องกันการติดเชื้อให้ทุกวัน
พญ.อรวรรณ โกสุมศุภมาลา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.ยันฮี ได้อธิบายถึงขั้นตอนการรักษา “น้องแก้ม” ที่ผ่านมาว่า หลังรับน้องแก้มเข้าทำการแอดมิตเมื่อวันที่ 20 พ.ค. จากการตรวจร่างกายพบเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 2 ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แพทย์ให้ดมยาสลบ ทำความสะอาดแผลในห้องผ่าตัด แผลดีขึ้น หลังผ่าตัดคนไข้ไปสังเกตอาการที่หอผู้ป่วยวิกฤตในเด็ก (PICU) อาการดีขึ้น จึงย้ายกลับวอร์ดสามัญ ขณะนี้น้องอาการดีขึ้น กินได้ เล่นได้ หน้าบวมลดลง หายใจปกติ แพทย์ทำแผลที่หน้า ไหล่ เท้า ป้ายยา Terramicin ให้แผลเนื้อแดงดี ไม่มีเนื้อตาย ให้ยาทางสารละลายทางหลอดเลือด ขณะที่ พญ.ชุติมน จักษุแพทย์ ได้ดูเรื่องตา ผลการตรวจในตาปกติ มีแค่อาการบวมที่เปลือกตาเท่านั้น รอการยุบบวม ซึ่งแพทย์ให้ทำแผลที่หน้าและศีรษะทุกวัน ส่วนแผลบริเวณลำตัวให้เปิดแผลดูอีกครั้งวันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้
สำหรับ “แม่น้องแก้ม” จากการตรวจร่างกายครั้งแรกประเมินเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 2 ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ แพทย์ได้ทำความสะอาดแผลให้ แผลดีขึ้น ยังอยู่ในขั้นตอนการรักษาทำแผลต่อเนื่อง และติดตามดูแลแผลต่อไป
เคสที่ 2. “น้องหนอน” เด็กชายวัย 2 ขวบ 10 เดือน จากจ.ตรัง ที่มีสภาพร่างกายเป็นแผลพังผืดทั่วตัว เนื่องจากถูกน้ำมันร้อนๆ ในหม้อทอดลูกชิ้นคว่ำราดตัว หลังรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลครั้งแรกหลังเกิดเหตุต้องทุกข์ทรมานกับบาดแผลมานานกว่า 8 เดือน ซึ่งพ่อแม่ร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ก่อนที่นางปวีณาจะพาเข้ารับการรักษาที่รพ.ยันฮี เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ โดยมี นพ.พินัย จิรฐิติวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยกรรมตกแต่ง รพ.ยันฮี เป็นแพทย์เจ้าของไข้
จากการตรวจร่างกาย “น้องหนอน” พบว่าบาดแผลทั่วร่างกายเริ่มเป็นพังผืดทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปด้วยความลำบากและเจ็บปวดตลอดเวลา โดยเฉพาะที่บริเวณข้อพับเท้าซ้ายพังผืดหนาจนทำให้การเดินผิดรูป นพ.พินัย จิรฐิติวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยกรรมตกแต่ง รพ.ยันฮี ได้ทำการผ่าตัดบริเวณข้อพับเท้าซ้ายครั้งแรกให้เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยันฮีเป็นเวลา 10 วัน เพื่อทำแผลผ่าตัดป้องกันการติดเชื้อ พร้อมกันนี้ทางโรงพยาาลยันฮียังได้ตัดชุดเพรสเชอร์การ์เม้นท์ ซึ่งเป็นชุดกระชับสำหรับใส่เพื่อให้แผลเป็นนิ่มและเรียบขึ้น
จากนั้น 3 เดือน แพทย์ได้นัดผ่าตัดพังผืดครั้งที่ 2 บริเวณนิ้วเท้าและหัวเข่าเพื่อแก้ปัญหาการเดินที่ผิดรูป เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา “น้องหนอน” ให้ความร่วมมือดี การผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แผลไม่มีเลือดซึมออกมา น้องยังมีอาการปวดแผลบ้างเล็กน้อย แพทย์ให้ยาแก้ปวด และได้เปิดทำแผลในวันที่ 25 พ.ค. และจะดูแผลของน้องอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค.นี้ น้องอารมณ์ดีหัวเราะ กินได้ เล่นได้ ถ้าแผลกราฟติดดี ไม่มีปัญหาแพทย์ก็จะให้กลับบ้านได้
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอบคุณ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลยันฮี ที่ให้ความช่วยเหลือเคสของมูลนิธิปวีณาฯ อย่างดียิ่งมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากที่มูลนิธิปวีณาฯ ประสานมาจะได้รับการช่วยเหลือให้เคสเข้ารับการรักษาและแอดมิดทันที พร้อมทั้งดูแลจนการรักษาเสร็จสิ้น แต่ละเคสสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยที่ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ยินดีกับทั้งสองครอบครัวด้วยที่ได้โรงพยาบาลยันฮีช่วยให้การรักษา ลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาดูแลอย่างดี สำหรับเคสที่ 1. “น้องแก้ม” อาการดีขึ้นมาก รอใบหน้ายุบบวม ดวงตาก็ใช้ได้ปกติ ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาจนกว่าจะหายดี และคาดว่าแผลเป็นจะน้อยที่สุดเพราะยังเป็นเด็กเล็กอยู่ เมื่อคุณแม่ของน้องแก้มหายดีแล้ว มูลนิธิปวีณาฯ จะพาไปยื่นขอรับเงินเยียวยากับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ส่วนทางด้านคดี นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ยานนาวาแล้ว ได้รับรายงานว่า คู่กรณีได้เดินทางไปรับข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมยอมรับผิดและแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนเคสที่ 2. “น้องหนอน” ครอบครัวยากจน พ่อแม่ไม่มีเงินที่จะซื้อยานอกบัญชีในการรักษาให้ลูกจนเกิดแผลเป็นและเป็นพังผืดทั่วตัวมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตเดินผิดรูป และถูกเด็กคนอื่นล้อเลียนมองเหมือนตัวประหลาด จากนี้น้องจะได้มีชีวิตใหม่แล้ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแม่ “น้องหนอน” เป็นค่าเดินทางจาก จ.ตรัง มารักษาตัวกรุงเทพฯ ทุกครั้ง และประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จ.ตรัง ให้การช่วยเหลือครอบครัวด้วย โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความช่วยเหลือหนูน้อยทั้ง 2 รายนี้ ร่วมกับโรงพยาบาลยันฮีต่อไป.
สหรัฐ แก้วตา หน.ข่าว ปทุมธานี รายงาน