ปวีณาพาเด็กสาวม.5 ถูกครูพละขว้างแก้วใส่จนหน้าตาบูดเบี้ยว ฐานะยากจนไม่มีค่ารักษาถึง 3 แสนบาท พบแพทย์รพ.ยันฮี ประสานช่วยเหลือรักษาฟรี ให้มีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป พร้อมให้ความเป็นธรรมถึงที่สุด

ปวีณาพาเด็กสาวม.5 ถูกครูพละขว้างแก้วใส่จนหน้าตาบูดเบี้ยว ฐานะยากจนไม่มีค่ารักษาถึง 3 แสนบาท พบแพทย์รพ.ยันฮี ประสานช่วยเหลือรักษาฟรี ให้มีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป พร้อมให้ความเป็นธรรมถึงที่สุด

จากกรณีนางสาวนฤดี จอดสันเที๊ยะ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางปราณีย์ จอดสันเที๊ยะ มารดา ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีเมื่อวันก่อน 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ถูกครูพละเจ้าอารมณ์ ขว้างแก้วเซรามิคใส่ที่ใบหน้านางสาวนฤดี ถูกบริเวณขมับซ้ายจนทำให้ประสาทบริเวณใบหน้าเสีย ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท และเกรงว่าครูพละที่ก่อเหตุจะไม่รับผิดชอบ เนื่องจากได้ไปปรึกษาแพทย์พบว่าหากจะรักษาให้เป็นปกติคงต้องผ่าตัดซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3 แสนบาท และล่าสุดยังตกลงกันไม่ได้ ครูพละที่ก่อเหตุยังคงสอนตามปกติ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา

โดยนางสาวนฤดี ได้เล่าว่า วันนั้นตนเองและเพื่อนในห้องกำลังเรียนวิชาพละศึกษา ครูพละได้ให้ตนเองนั่งเข้าแถวเพื่อรอการเรียนการสอน แต่จุดที่ตนเองนั่งนั้นมีแดดส่องและร้อนมากตนเองจึงยืนขึ้น จากนั้นครูพละได้แสดงความไม่พอใจและใช้แก้วน้ำเซรามิคขนาดใหญ่ขว้างใส่ตนโดนเข้าที่ขมับซ้ายจนได้รับบาดเจ็บแผลปูดบวม แต่ครูกลับบอกว่า “กูกะจะโยนให้โดนหัวมึงให้แตก” จากนั้นเมื่อหมดเวลาเรียนก็ได้เดินทางกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองรับทราบแต่อย่างใด วันต่อมาสังเกตเห็นปากตัวเองเบี้ยวไปทางมุมด้านขวาจนผิดรูปร่าง เมื่อดื่มน้ำเข้าไปก็จะไหลออกมา แม้ช่วงเวลานอนหลับตาก็พบว่าตาด้านซ้ายปิดไม่สนิท และยักคิ้วไม่ได้ จึงได้บอกแม่แล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จนเช้าวันที่ 9 ส.ค. จึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.โชคชัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยดูแลเป็นอย่างดี นัดเจรจาตกลงเรื่องค่ารักษาพยาบาลถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดตนได้แจ้งกับครูพละว่า หมอแนะนำให้รีบรักษา เพราะเวลาผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งจะต้องผ่าตัดและมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3 แสนบาท หากปล่อยไปเนิ่นนานอาจจะพิการที่ใบหน้า จึงทำให้ยังตกลงกันไม่ได้ ทางครอบครัวของตนมีฐานะยากจนก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร จึงขอให้นางปวีณาช่วยหาทางรักษาและให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะไม่อยากทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต เมื่อส่องกระจกต้องเห็นหน้าตัวเองเป็นแบบนี้รับไม่ได้แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่

ภายหลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ทราบว่า ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างรายงานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย ก็เป็นคนกลางในการเจรจาทุกครั้งทั้งยังมีบันทึกในการตกลงกัน แต่ครั้งที่ 3 ล่าสุดที่เจรจานั้นยังตกลงกันไม่ได้ พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังนายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เพื่อขอความช่วยเหลือในการรักษาฟรีให้กับ นางสาวนฤดี เพื่อให้ได้กลับมามีชีวิตตามปกติสุขต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางสาวนฤดี จอดสันเที๊ยะ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ถูกครูพละขว้างแก้วใสจนประสาทบริเวณใบหน้าเสีย ปากเบี้ยว เวลานอนตาซ้ายปิดไม่สนิท ไปที่โรงพยาบาลยันฮี พบกับนายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจอาการนางสาวนฤดี เบื้องต้น ทั้งนี้นายแพทย์สุพจน์ ยืนยันจะให้การรักษาช่วยเหลือเต็มที่ และไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาและผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการรักษาอย่างต่อเนื่องด้วย

ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุดคือการช่วยรักษานางสาวนฤดี เพราะที่ผ่านมาแพทย์ลงความเห็นว่าหากปล่อยนานไปใบหน้าอาจจะพิการถาวร สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณรพ.ยันฮี ที่ให้การช่วยเหลือ อย่างดีเสมอมา