วอนสังคมช่วยเหลือนักเรียนวัย 15 ปีป่วยเป็นโรค LD หลังเลิกเรียนออกเก็บของเก่าขายเลี้ยงอีก 3 ชีวิต

มกราคม 21, 2017 16:19 โดย opwnews
0
1258

วอนสังคมช่วยเหลือนักเรียนวัย 15 ปีป่วยเป็นโรค LD หลังเลิกเรียนออกเก็บของเก่าขายเลี้ยงอีก 3 ชีวิต
16244715_1254521217970572_1364041710_o
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่โรงเรียนประเสริฐอิลลาม ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับการประสานจาก นางผุสดี หวายนำ ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ว่าได้รับเรื่องรายงานจากนาย ภูรินท์ พิงภูงา ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นของนักเรียน ชั้น ม.3/2 ถึงกรณีที่ทางครูประจำชั้นของแต่ละห้องเรียน ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับทางผู้ปกครองตามที่อยู่อาศัยของนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของแต่ละชั้นเรียนทุกคน จนกระทั่งได้ไปพบกับครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลามของ ด.ช.เจริญ เขตต์บุญพร้อม อายุ 15ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.3/2 ได้อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเล็กที่ขอทางญาติห่างๆปลูกสร้างอยู่มีลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูงที่สร้างจากเศษไม้และเศษวัสดุเหลือใช้ต่างๆ สภาพเก่าผุทรุดโทรมมีความเป็นอยู่ที่ลำบากยากเข็นและรอบๆบ้านมีแต่เศษกองสิ่งของเหลือใช้ที่ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ และไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำไว้สำหรับใช้อาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัว ต้องคอยอาศัยเพื่อนบ้านใกล้เคียงเข้าใช้ ส่วนอาหารก็แล้วแต่ทางเพื่อนบ้านหรือร้านอาหารที่ยายรับจ้างล้างจานจะแบ่งปันมาให้กินกัน บางครั้งก็อดมื้อกินมื้อ โดยมีสมาชิกอาศัยอยู่ด้วยกันรวม 4 คน ประกอบไปด้วย ยายอายุ 60ปี ที่มีปัญหาทางสายตามองไม่ค่อยชัด ส่วนแม่อายุ 36 ปีก็เป็นโรค LD และต่อมไทรอยด์โต ไวรัสตับอักเสบบี และลูกสาวคนเล็กสุดวัย 3 เดือน มีลักษณะของร่างกายผิดปกติ มีใบหูซ้ายติดกับหนังศรีษะ โรคตับโต ต่อมไทรอยด์โตและมีอาการติดเชื้อไวรัสทางสมองต้องรอตัวยาที่มาจากต่างประเทศในการใช้ยาปฏิชีวะนะรักษาอาการที่รพ.ชลประทานปากเกร็ด ในส่วนของนมผงที่ใช้ดื่มกินก็ต้องขอเอาตามโรงพยาบาลต่างๆและสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนได้บ้างไม่ได้บ้าง ขณะที่ทางน้องเจริญ ที่มองว่าน่าจะเป็นกำลังอีกแรงในการช่วยเหลือทางครอบครัวของเด็กในวัยอายุ 15 ปี ที่พอจะทำได้ ก็ยังเป็นเด็กป่วยโรค LD หรือแอลดี (Learning Disabilities) ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้หรือเรียนรู้สิ่งต่างๆจะช้ากว่าคนปกติทั่วไป และโรคหืดหอบ ทำให้ 4 ชีวิตที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากรายได้หลักไม่มีนอกจากรายได้อันน้อยนิดมาจาก น้องเจริญ ใช้เวลาหลังเลิกเรียนเดินเก็บหาขวดพลาสติกและของเก่าขายช่วย ยาย ทั้งที่ขายายเองก็เดินไม่ค่อยถนัดต้องคอยออกเเรงเข็นรถคันเล็กๆเดินหาขวดพลาสติกและของเก่าตามตรอกซอกซอยในพื้นที่ระแวกบ้านไม่ไกลนักตามยถากรรม และบางครั้งก็ได้รับความเมตตาสงสารจากร้านขายของริมถนนใกล้บ้านให้ น้องเจริญ มาช่วยล้างจานให้ที่ร้านขายของเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยเหลือค่าขนมที่ได้รับเล็กๆน้อยๆ เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายไปโรงเรียนและให้ทางครอบครัวไว้ซื้อข้าวกินประทังชีวิตไปวันๆซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือทางครอบครัวของน้องเจริญแต่อย่างใด
นางผุสดี หวายนำ ผู้อำนวยการโรงเรียนประเสริฐอิลลาม เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้มีนโยบายส่งคุณครูประจำชั้นของแต่ละชั้นเรียน ให้ลงพื้นที่บ้านของนักเรียนในการทำบันทึกประวัติความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัวและพบปะพูดคุยถึงปัญหาต่างๆกับทางบิดา มารดา ของนักเรียนที่สังกัดอยู่ด้วยและหากพบเด็กนักเรียนที่ยากจนจริงๆก็จะเสนอทางต้นสังกัดเพื่อมอบทุนการศึกษาให้ด้วย จนกระทั่งไปพบเคสของ ด.ช.เจริญหรือน้องเจริญ เขตต์บุญพร้อม อายุ 15ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.3/2 ที่มีความเป็นอยู่ในสภาพที่ลำบากยากแค้น ประกอบกับมีสมาชิกภายในครอบครัวเจ็บป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรคและต้องการความช่วยเหลือจากทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ ซึ่งทางน้องเจริญ แม้จะเป็นเด็กป่วยโรค LD หรือแอลดี (Learning Disabilities) ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้หรือเรียนรู้สิ่งต่างๆจะช้ากว่าคนปกติทั่วไป จะเป็นเด็กที่มีร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์และมีอายุเพียง 15 ปีก็ตาม แต่ก็ได้ทำงานช่วยเหลือหารายได้ให้กับทางครอบครัวโดยไม่ย่อท้อมาตลอด และหากทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมต่างๆหรือขอความรวมมือให้นักเรียนช่วยงานในด้านใดก็จะมีน้องเจริญ อาสาช่วยงานเป็นคนแรกมาโดยตลอด ซึ่งก็ถือว่าเด็กมีความกระตือรื้อร้นขยันในการช่วยเหลืองานสังคมส่วนรวมมาก ขณะที่ น้องเจริญ มีความปรารถนาเคยพูดเอาไว้ว่าหากเรียนจบม.3 แล้ว อยากจะ เรียนต่อด้านสายอาชีพ และอยากเรียนเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เพื่อจะได้เอาเงินมารักษาอาการป่วยและเลี้ยง ยาย แม่และน้องสาวคนเล็กที่เจ็บป่วยอยู่ไม่ให้ลำบากกัน
ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของด.ช.เจริญ หรือน้องเจริญ เขตต์บุญพร้อม อายุ 15ปี เริ่มตั้งแต่ทางโรงเรียนให้นักเรียนประกอบพิธีละหมาดทางศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดประเสริฐอิลลาม ในช่วงเที่ยง หลังเสร็จพิธีละหมาด ก็เดินทางมาเข้าเรียนหนังสือตามปกติ จนกระทั่งเลิกเรียนหนังสือและเดินทางกลับบ้านที่ห่างออกไปประมาณ 1กิโลเมตร ซึ่งระหว่างทาง น้องเจริญ จะคอยเดินขุยเขี่ยดูตามถังขยะหากพบขวดพาสติกหรือกล่องลังกระดาษและสิ่งของที่จะพอเอาไปขายได้ตามร้านขายของเก่าก็จะเก็บใส่ถุงหรือติดมือกลับไปบ้านด้วยทุกครั้ง และช่วงก่อนถึงบ้านจะนัดเจอกับยาย ตรงพื้นที่โล่งเป็นลานสำหรับให้คนนำสิ่งของหรือขยะเหลือใช้เอามาทิ้งตรงบริเวณนี้ ทางน้องเจริญกับยายก็จะแวะเก็บคัดเลือกสิ่งของชิ้นไหนที่พอจะนำไปขายได้ เพื่อใช้ประทั่งชีวิตก็จะเอาใส่รถเข็นคันเล็กๆช่วยกันเข็นกับยายขนกลับเข้าบ้านด้วย เเละจะนำสิ่งของที่เก็บกับมาไปให้เเม่ที่คอยเลี้ยงน้องคนเล็กอยู่ ช่วยคัดแยกคัดกรองวัสดุอีกครั้ง เพื่อนำไปขายให้ได้ราคามากยิ่งขึ้นโดยจะเก็บสะสมไว้ประมาณ 2-3 วันและนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าซึ่งจะได้เงินจากการขายประมาณ 200-300 บา ต่อครั้งซึ่งรายได้อันน้อยนิดนี้ เอามาไว้ใช้จ่ายภายในครอบครัวสำหรับให้ 4 ชีวิตได้ใช้ยังชีพกันต่อไป
วอนผู้ใจบุญหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือและบริจาคได้ที่ ธ.กสิกรไทย สาขาโลตัส นิชดาธานี ออมทรัพย์ เลขที่ 022-3-37017-9 นายเจริญ เขตต์บุญพร้อม
16244917_1254521267970567_931203691_o16229862_1254521291303898_984160907_o




--!>