สื่อมวลชนสัญจรชายแดนใต้ในโครงการ”ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้”

สื่อมวลชนสัญจรชายแดนใต้ในโครงการ”ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้”

สื่อมวลชนสัญจรชายแดนใต้ในโครงการประชาสัมพันธ์การสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ”ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้” วันที่ 22-25 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้แทนภาค 8 นำสื่อมวลชนสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยวและสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำมาเผยแพร่ยังประชาชนในพื้นที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดในภาค 8 รวม 16 จังหวัดประกอบด้วย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สระบุรี นนทบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการประชาสัมพันธ์การสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 22-25 มกราคม 2562 ณ จังหวัดสงขลา และจังหวัดยะลา ในรูปแบบของสื่อกิจกรรม ในการร่วมการเสวนา “สื่อมวลชนสัญจร”

เวลา 9.00 น0.ของวันที่ 24 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุม มงคลฤทธิ์ โรงแรมการ์เด้นวิว เบตง จ.ยะลา พลโท ชลิต พวงมาลีประดับ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี นายสุวิทย์ นาคเป้า ปลัดอาวุโส รองผอ.ศปก.อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญประชาสัมพันธ์ นางจิรดา พูลสวัสดิ์ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น นางสาวจินารัตน์ สุนทรอาคเนย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี เป็นตัวแทนหัวหน้าคณะภาค8 พร้อมด้วยตัวแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดต่างๆ และสื่อมวลชน เข้าร่วมสัมมนา

พลโท ชลิต พวงมาลีประดับ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กล่าวขอบคุณทีมงานสื่อมวลชนภาค8และส่วนงานอื้นๆที่ได้ร่วมกันเดินทางมาชายแดนใต้เพื่อกิจกรรม โครงการ ”ชีวิตดี๊ดีที่ชายแดนใต้” สืบเนื่องมาจากการที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดในภาค 8 นำสื่อมวลชนสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยวและสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งรับฟังการกล่าวของนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และส่วนงานทางต่างของจังหวัดยะลา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และยืนยันว่าจังหวัดชายแดนใต้ยังหน้าอยู่เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นแค่การสร้างสถานการณ์ ซึ้งเป็นการเจตนาของผู้ก่อเหตุต้องการให้เป็นข่าวสร้างความตะนกตกใจให้กับประชาชน โดนใช้สื่อทั้งโซเชี่ยนหลักและรอง อันเป็นข่าวจริงบ้างไม่จริงบ้าง จึงอยากฝากสื่อมวลชนที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ช่วยกันเผยแพร่ความจริงให้กับประชาขนทั่วไปตามที่สื่อมวลชนลงมาพบเห็นด้วยตาจริงๆ และไม่เป็นเครื่องมือให้กับผู้ก่อเหตุ ก็จะทำให้เกิดเหตุน้อยลง โดยทางเจ้าหน้าก็ดูแลความปลอดภัยให้กับประชานในพื้นที่อยู่แล้วขอให้วางใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกส่วนทำงานกันเต็มที่ และที่สำคัญตามกฎหมายห้ามประชาชนแต่งกายคล้ายทหารหรือเจ้าหน้าที่รัฐ สำหรับทางเจ้าหน้าที่รัฐเองมีความคุ้นเคยกับประชาชนในพื้นที่อยู่แล้วสามารถแยกแยะกลุ่มคนได้ แต่เจ้าหน้าที่อาสาฯที่มีอยู่จำนวนมากอาจเข้าใจผิด จึงใคร่ขอความร่วมมือประชาชนด้วย

ด้าน นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า ในเขตอำเภอเบตงถือว่ามีสิ่งเป็นอันดับหนึ่งในโลกและในประเทศหลายอย่าง ร่วมทั้งเศรษฐกิจเองด้วยมีชุมชนชาวจีน ไทยพุทธและ ไทยมุสลิมอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติเข้าใจกันดี และด้านการพัฒนา ได้มีการสร้างสกายวอลค์เพิ่มเติมที่ “อัยเยอร์เวง” ทะเลหมอกแห่งเมืองเบตง จังหวัดยะลา ด้วยอำเภอเบตงเป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทยซึ่งติดชายแดนประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจการค้าสูง ประกอบกับเป็นอำเภอที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรม เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ภาษา และชาติพันธุ์ที่หลากหลาย อีกทั้งเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สวยงามจึงทำให้อำเภอเบตงเป็นอำเภอที่มีนักท่องเที่ยวจากในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีแผนสร้างสนามบินเบตงเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ
แต่เป็นห่วงว่าจะไม่สามารถเปิดใช้ได้ทันปี2563เพราะยังไม่มีแผนการจัดทำหอบังคับการบินเลยจึงใครฝากผู้ร่วมสัมมนาช่วยกันอีกแรง เพราะมีมีเครื่องบินมาลงที่เบตงก็เท่ากับเครื่องบินหอบเงินมาให้ลงสู่ธุรกิจต่างๆของเบตง

นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญประชาสัมพันธ์ กล่าว ทางกรมประชาสัมพันธ์อยากฝากสื่อว่าการนำเสนอข่าวเรื่องความมั่นคงควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนนำเสนอ ซึ่งปัจจุบันมีสื่อฯมากมายทั้งหนังสือพิมพ์วิทยุ โทรทัศน์รวมทั้งสื่อออนไลน์ต่างๆจำนวนมาก หากสื่อมวลชนเองไม่มีคุณภาพไม่คัดกรองก็จะตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อเหตุ สื่อเองต้องพยายามตรวจสอบกันเอง ซึ้งทางกรมประชาสัมพันธ์ได้พยายามร่างกฎหมายของสื่อมวลชนแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ฉะนั้นสื่อฯเองก็ต้องอยู่ในคุณภาพชองสื่อมวลชนเองให้ได้ เพื่อประชาชนจะได้รับประโยชน์ที่สูงสุด

ล
นางสาวจิรารัตน์ สุนทรอาคเนย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี ตัวแทนสำนักงานประชาสัมพันธ์ ภาค8 กล่าวขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้และพาชมแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวกันตามปกติแม้จะมีข่าวการสร้างสถานการณ์บ้าง จากการที่ทีมงานได้ไปในสถานที่ต่างๆตลอดจนเห็นการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ยังคงเป็นปกติดีมีความยิ้มแย้มแจ่มใสให้การต้อนรับกับแขกที่มาเยือนเป็นอย่างดีตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐก็ให้ความสะดวกเป็นอย่างดี ทำให้เกิดความมั่นใจว่าจังหวัดชายแดนใต้ยังความปลอดภัยดี สมกับโครงการประชาสัมพันธ์การสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ “ชีวิตดี๊ดี ที่ชายแดนใต้”