แม่ทัพภาค2นำส่วนราชการแถลงผลการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

วันนี้(19 ธ.ค.61) เวลา 10.00 น. ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พลโท ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย นาย ศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พลตำรวจตรี คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พันตำรวจเอก ณัฐนนท์ ประชุม รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4, พันตำรวจเอก ศราวุธ จิตตระเบียบ รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2, พันตำรวจเอก ชาติชาย มาภัย รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, นาย อดุล ประยูรสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3, นาย เรืองยศ รัตนอุรดินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4, นาวาเอก ณัฐพงศ์ พรรณรายน์ เสนาธิการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ภายในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 31 มกราคม 2562 โดยให้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการดำเนินการ หน่วยงานด้านความมั่นคง ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการฯ

ตามที่พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขานรับนโยบายและประกาศเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในแก้ปัญหายาเสพติดและอาวุธสงคราม โดยสั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคงและกองกำลังป้องกันชายแดน ดำเนินมาตรการสกัดกั้นอย่างเต็มที่ และเต็มขีดความสามารถ  ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ทุกหน่วยงาน ได้ร่วมกันบูรณาการในการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดด้วยความพยายาม มุ่งมั่น อุตสาหะ ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชายแดน และพื้นที่ตอนในของภูมิภาค ครอบคลุมทั้ง 20 จังหวัด โดยมีผลการปฏิบัติ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม 2561 ดังนี้

มีการจับกุม 9,419 คดี ผู้ต้องหา 9,697 คน ของกลางยาบ้า 1,294,299 เม็ด, กัญชา 2,161.69 กิโลกรัม และ ไอซ์ 13.95 กิโลกรัม โดยเป็นคดีรายสำคัญ จำนวน 31 คดี เปรียบเทียบการจับกุม และผู้ต้องหา กับห้วงเวลาเดียวกันใน ปี 2560 และ ห้วงก่อนการประกาศใช้นโยบาย พบว่ามีจำนวนการจับกุม และจำนวนผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 35 ซึ่งถือเป็นผลการปฏิบัติที่ดี และได้รับความพึงพอใจ จากประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันขบวนการผู้ค้ายาเสพติด ได้มีพัฒนาการในการผลิต การค้า และขบวนการลำเลียง ที่ทันสมัยและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว  จำนวนผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อยที่เพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ การใช้ระบบการจำหน่ายและระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ทันสมัย เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในทุกระดับ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ของ กองทัพภาคที่ 2 จะดำรงความมุ่งมั่น และทุ่มเท การดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ปัญหายาเสพติดในทุกพื้นที่มีปริมาณลดลง และหมดไปในที่สุด

พิสิษฐ์  เขื่อนเพ็ชรต์ / ศูนย์ข่าวนครราชสีมา