ผู้เสียหายร้องสื่อเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมพ่อถูกรถเมล์บริษัทของอดีตนักการเมืองดังชนดับ คดีกับเงียบหายนานเกือบปี

นนทบุรี อีกแล้ว ผู้เสียหายร้องสื่อเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมพ่อถูกรถเมล์บริษัทของอดีตนักการเมืองดังชนดับ คดีกับเงียบหายนานเกือบปี
วันที่ 12 ม.ค.60 น.ส.รัตนา สุภาแสน อายุ 32ปีบุตรสาว และน.ส.จุตรพร โคประเสริฐ อายุ 54 ปีมารดา ชาว จ.นนทบุรี ได้เข้าร้องสื่อหลังจากผู้เป็นพ่อประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และคดีไม่คืบหน้าซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ปีโดยมีการติดตามสอบถามผลความคืบหน้าคดีหลายครั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังนิ่งเฉยเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากรถคู่กรณีเป็นรถประจำทางของบริษัทซึ่งเจ้าของเป็นอดีตนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่ จ.ปทุมธานี
น.ส.รัตนา ฯบุตรสาว ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 3 ก.พ.59 นายศิริมงคล สุภาแสน อายุ 58 ปีอยู่บ้านเลขที่ 150/9 หมู่ 4 ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้เป็นพ่อมีอาชีพขับรถแท็กซี่ โดยวันที่เกิดเหตุพ่อได้ขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเหลือง ทะเบียน ทษ-351 กทม.ไปส่งผู้โดยสารภายในซอยสุขใจ ถนนปทุมธานีสายใน เป็นพื้นที่ของ จ.ปทุมธานี หลังจากส่งผู้โดยสารเสร็จพ่อได้ขับรถออกจากซอยสุขใจ เพื่อเลี้ยวขวาออกมาบนถนนปทุมธานีสายใน แต่เกิดถูกรถประจำทางสีส้ม ทะเบียน 10-0300 ปทุมธานี ที่วิ่งระหว่างปทุมธานี-ปากเกร็ด พุ่งชนเข้าที่ด้านขวาของรถเป็นเหตุให้พ่อนั้นเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และหลังจากนำศพพ่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีจนแล้วเสร็จ จึงได้ทำการติดต่อกับ พ.ต.ท.วรุตน์ ไทยรัฐเทวิน เป็นพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองปทุมธานี ผู้รับผิดชอบคดี และได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างรวบพยานหลักฐานเอกสารและจะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพบ จนกระทั้งมีการพูดคุยกับผู้ขับขี่รถประจำทางคันดังกล่าวและตัวแทนของทางบริษัทกิตติสุนทร จำกัดเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนเดียวกันโดยมีการเรียกค่าเสียหายไปเบื้องต้นจำนวน 5 แสนบาทซึ่งทางตัวแทนบริษัทมีการต่อรองพร้อมทั้งอ้างว่าจะต้องนำเรื่องที่มีการเรียกร้องในครั้งนี้เข้าที่ประชุมก่อน และหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อจากทางคู่กรณีอีกเลย ตนจึงได้ทำการติดต่อไปยัง พ.ต.ท.วรุตน์ ไทยรัฐเทวิน ซึ่งเป็นเจ้าของคดีและได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐาน ต่างๆ โดยตนมีการติดต่อสอบทางความคืบหน้าของคดีมาตลอดนานกว่า 6 เดือนซึ่งก็ได้คำตอบเหมือนเดิมแบบทุกครั้งที่มีการติดต่อสอบถาม จนกระทั้งในวันที่ 10 ต.ค.59 ได้ตัดสินเดินทางเข้าไปพบ พ.ต.ท.วรุตน์ ฯด้วยตนเองและมีการพูดคุยพร้อมกับบันทึกเสียงในการสนทนาเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยทางพ.ต.ท.วรุตน์ ฯแจ้งว่ายังไม่มีความคืบหน้าของคดีและยังบอกอีกว่าตนเองจะเกษียนอายุราชการก่อนพร้อมจะนำสำนวนคดีทั้งหมดส่งมอบให้กับทาง ร.ต.ท.ภาคภูมิ พนักสอบสวนคนใหม่ที่จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อ และหลังจากนั้นในเดือน พ.ย.59 ตนก็ได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.ภาคภูมิ กับได้รับคำตอบว่ายังไม่ได้รับสำนวนคดีจากทาง พ.ต.ท.วรุตน์ ฯ รวมถึงได้มีการคุยผ่านไลน์สอบถามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งไม่มีการตอบรับใดๆ อีกเลยตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.59 ที่ผ่านมา ตนเองเริ่มร้อนใจและผิดสังเกตุเนื่องจากเหตุเกิดมานานกับไม่มีความคืบหน้าของคดีเลยแม้แต่น้อย จึงได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี โดยนำเอการหลักฐานต่างๆ เข้าร้องและขอความช่วยเหลือในเดือน ธ.ค. โดยที่ทางท่านผู้กำกับได้รับเรื่องและรับปากจะติดตามตามให้ และหลังจากนั้นมาก็ไม่มีความคืบหน้าอีกเช่นเคย ตนเองจึงได้เข้าร้องสื่อเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากรับรู้มาว่าบริษัทรถประจำทางคันดังกล่าวเป็นของอดีตนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่ จ.ปทุมธานี

ข